หัวหิน-ประจวบฯ จมทั้งบ้าน-รถ ฝนถล่มน้ำท่วมหนัก ผู้ว่าฯสั่งอพยพ

วันที่ 7 ต.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานความคืบหน้า สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
 
ตั้งแต่ช่วงเย็น วันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา ระดับน้ำตามถนนสายต่างๆ ของเทศบาลเมืองหัวหิน ทั้งถนนแนบเคหาสน์ ,ถนนเดชานุชิต รวมถึงถนนเพชรเกษมสาย 4 ที่ตัดผ่านตัวเมืองหัวหิน พบว่าระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้น และยังท่วมเพิ่มที่บริเวณหมู่บ้านตะเกียบด้วย โดยระดับน้ำบนถนน สูงประมาณ 40-50 เซนติเมตร บางจุดสูงประมาณ 80 เซนติเมตร รถยนต์ขนาดเล็ก ขับผ่านด้วยความลำบาก และมีรถเครื่องดับจอดเสียหลายราย ส่วนที่บริเวณ ทางต่างระดับหัวนา หน้าซอย หัวหิน 112 ระดับน้ำในช่วงหัวค่ำ อยู่ที่ประมาณ 70-80 เซนติเมตร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัย ต้องเร่งระบายรถที่ขับผ่านพร้อมประชาสัมพันธ์ ให้รถยนต์ทุกชนิดหลีกเลี่ยงเส้นทางไปใช้เส้นทางอื่นแทน โดยหากรถยนต์ที่มุ่งหน้า ไปยัง อ.ปราณบุรี ไปใช้เส้นทาง ถนนสายหัวหิน-ห้วยมงคล ออกถนนบายพาสแทน

 ทั้งนี้จากการออกสำรวจของนายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน
 
พบว่า มวลน้ำฝนจำนวนมาก ได้ไหลเข้าท่วม หมู่บ้านพงษ์นเรศ , หมู่บ้านคันทรีฮิลล์ และหมู่บ้านรอยัลโฮม ในซอยหัวหิน 102 ระดับน้ำท่วมสูงจนประชาชนต้องนำรถยนต์ออกมาจอดหนีน้ำ ริมถนนทางเข้าหมู่บ้าน โดยพบว่าระดับน้ำท่วมสูงที่หมู่บ้านพงศ์นเรศมากที่สุด บางจุดน้ำสูงมากกว่า 1 เมตร ทำให้บ้านเรือนประชาชนจำนวนกว่า 100 ครัวเรือน ซึ่งส่วนใหญ่สร้างแบบชั้นเดียว ต้องจมน้ำในทันที

 โดยชาวบ้านต่างระบุว่า ไม่สามารถขนสิ่งของได้ทัน หลังน้ำได้ไหลเข้าท่วมตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมาอย่างรวดเร็ว

ทำให้ไม่สามารถพักอาศัยในบ้านได้ ซึ่งทหารจาก ศร.พัน1 และศร.พัน2 จากศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี จำนวน 200 นาย พร้อมรถบรรทุกขนาดใหญ่ และเรือท้องแบน ได้เข้าให้การช่วยเหลือประชาชน ในการขนย้ายสิ่งของไว้ในที่สูง พร้อมช่วยแจกข้าวกล่องให้กับประชาชน

 เมื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ เวลา 21.45 น. ที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
 
จึงได้ประกาศให้อพยพชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านพงศ์นเรศ ซอยหัวหิน 102 ออกจากหมู่บ้านทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย เพราะไม่มั่นใจว่า ตลอดทั้งคืนนี้จะมีน้ำไหลเข้าท่วมเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งทางเทศบาลได้จัดเตรียมเต็นท์ไว้เป็นที่พักชั่วคราว ที่บริเวณหน้าหมู่บ้าน พร้อมทั้งสั่งการให้ ศูนย์ ปภ.เขต4 ประจวบคีรีขันธ์ นำรถไฟส่องสว่าง พร้อมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 3 เครื่อง และเรือท้องแบน เพิ่มอีก30 ลำมา คอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และสั่งติดตามสถานการณ์น้ำตลอดทั้งคืน