โจรใต้ป่วนปัตตานีเผากล้อง-เชือดคอชาวบ้านที่นราฯ

เมื่อวันที่  16 ก.ย.  มีรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่หลายเหตุการณ์เริ่มจากตัวแทนบริษัท พรพัฒน์เรตติ้ง จำกัด
 
เข้าแจ้งความร.ต.ท.วีระยุทธ อินทรัตน์ ร้อยเวร สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ว่าเป็นผู้รับเหมาติดตั้งกล้องวงจรปิดบนเสาไฟฟ้าใน อ.กะพ้อ  5 จุด ถูกคนร้ายลอบเผากล้องวงจรปิด  2 ตัว บริเวณสามแยก บ้านคอกวัว ต.ปล่องหอย นอกจากนี้ยังถูกขโมยกล้องวงจรปิดไป 9 ตัว บริเวณสามแยกรพ.ส่งเสริมสุขภาพชุมชน ต.ปล่องหอย และทางขึ้นน้ำตกนาวิน บ้านบาลูกา หมู่ 5 ต.กะรูบี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบเก็บลายนิ้วมือ และหาหลักฐานในที่เกิดเหตุ

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า บริษัทติดตั้งกล้องวงจรปิดทดแทนจุดที่ถูกคนร้ายเผาและขโมยไปเมื่อหลายเดือนก่อน 

โดยติดตั้งกล้องเพียงอย่างเดียว ยังไม่เดินสายไฟ จากนั้นพนักงานจึงกลับที่พัก แต่วันรุ่งขึ้นจะมาทำต่อให้เสร็จ ปรากฏว่ากล้องวงจรปิดถูกเผาและถูกขโมยไปแล้ว เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นแนวร่วมในพื้นที่ก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ ขณะที่ พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันในพื้นที่บ้านดีปริง หมู่ 5 ต.ตะโล๊ะดือรามัน อ.กะพ้อ เมื่อไปตรวจสอบพบร่างนายอุสมาน สาและ อายุ 40 ปี เป็นคนในพื้นที่หมู่ 5 ต.ตะโล๊ะดือรามัน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกไม่ทราบขนาด ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรีบนำส่งรพ.กะพ้อ จากการสอบสวนทราบว่า ขณะคนเจ็บขี่รถจยย.กลับบ้าน ระหว่างทางมีคนร้ายตามประกบยิงจนได้รับบาดเจ็บ คาดสาเหตุมาจากสถานการณ์ไม่สงบ หรืออาจเป็นเรื่องส่วนตัว

อีกราย พ.ต.อ.พยงค์ สานุกูล ผกก.สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ไปตรวจสอบสภาพศพนายมะดูดี ฆาเฆาะ อายุ 29 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 91 หมู่ 9 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ ที่เสียชีวิตในสวนยางพารา บ้านปิโล๊ะ หมู่ 3 ต.ซากอ อ.ศรีสาคร พบบาดแผลถูกแทงบริเวณหน้าอกจนพรุน ลำคอถูกเชือดด้วยของมีคมเกือบขาด ที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้และหลักฐานใดๆ เจ้าหน้าที่คาดว่านายมะดูดีถูกสังหารจากพื้นที่อื่น แล้วนำศพขึ้นรถยนต์นำมาทิ้งไว้ในสวนยางพาราเพื่ออำพรางคดี โดยลักษณะเป็นการสังหารโหดด้วยความโกธรแค้นจากเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ไม่สามารถตกลงกันได้กับกลุ่มคนร้าย แต่ก็ไม่ตัดทิ้งสาเหตุจากสถานการณ์ความไม่สงบ

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่มบีอาร์เอ็นส่งรายละเอียด 5 ข้อมาให้ไทย ว่าได้ศึกษาแล้ว

ส่วนจะผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ต้องให้กฤษฎีกาหรือฝ่ายกฎหมายเป็นผู้ชี้ขาด ผิดหรือไม่ ตนพูดไม่ได้เพราะไม่ใช่กระบวนการยุติธรรม ทำได้เพียงเสนอแนะข้อห่วงใย หากส่วนที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแล้วว่าไม่ผิด ก็ไม่ผิด แต่ถ้าผิดรัฐธรรมนูญ ก็ทำไม่ได้ ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้น ขอยืนยันว่าการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เรายังใช้กำลังทุกส่วนในการจับกุม ดำเนินคดีตาม ป.วิอาญา ส่วนการพูดคุยก็ดำเนินการไป หากอยากได้ข้อมูลเราก็ส่งไปให้ ซึ่งเราไม่ได้หยุดทำงาน สิ่งที่ทำในวันนี้ยิ่งมีการพูดคุย เราก็ต้องยิ่งดำเนินการทางกฎหมายให้มากขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น อย่าให้เขามายื่นข้อเสนอเพียงฝ่ายเดียว

เราเป็นฝ่ายรัฐจะต้องเป็นผู้ควบคุมการพูดคุย ซึ่งวันนี้ก็เป็นอยู่แล้ว ไม่ได้ตามใจใคร ทั้งนี้เรามีการประชุมร่วมเพื่อให้ได้ข้อยุติถึงจะไปคุยกับบีอาร์เอ็น เพียงแต่สื่อมวลชนชอบนำเสนอในสิ่งที่กลุ่มบีอาร์เอ็นพูดผ่านเว็บไซด์มาถาม มาพูดต่อ ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย

“เรื่องปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้จะให้จบวันนี้หรือพรุ่งนี้ไม่ได้ อย่าใจร้อน ลูกน้องของผมตาย ผมเจ็บปวด ไม่ใช่ไม่เจ็บปวด มีชีวิตจิตใจ ต้องดูแลครอบครัวเขา สบายตรงไหน เพราะฉะนั้นอย่าพูดให้เกิดความเสียหาย เอางบประมาณไปใช้มากมาย ก็ต้องดูด้วยว่าเอาไปทำอะไร เบี้ยเลี้ยงกำลังพลทั้งนั้น อย่าพูดเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย” ผบ.ทบ. กล่าว