วันที่ 15 ก.ย. ร.ต.ท.วิทยา หนูกุล พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร
รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาแฉล้มนิมิตร ซอย 1 เลขที่ 4888 ถนนแฉล้มนิมิตร แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ รองผบช.น. พ.ต.ท.ศรศักดิ์ ทองมี สว.สส.สน.วัดพระยาไกร พ.ต.ต.ศราวุธ วินัยประเสริฐ สว.สส.สน.วัดพระยาไกร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.วัดพระยาไกร
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบ น.ส.ศิวพร หงษ์หิรัญ อายุ 25 ปี พนักงานร้านดังกล่าว ยืนรอให้การด้วยอาการตื่นตระหนกตกใจ
โดยเบื้องต้นเจ้าตัวให้การว่า ช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 03.46 น. ตนกำลังคิดเงินให้ลูกค้าผู้หญิง 3 คน ที่เค้าท์เตอร์แคชเชียร์ ก็มีคนร้ายเป็นชาย 1 คนแต่งกายสวมหมวกแก๊ปสีดำ สวมเสื้อโปโลสีขาว และสวมทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ เดินถือกระเป๋าเป้สีดำ คล้ายกับช่างที่เคยมาซ่อมอุปกรณ์ภายในร้าน ทำทีเดินเข้ามาเหมือนเป็นลูกค้าตามปกติ เมื่อลูกค้าที่เป็นผู้หญิงทั้ง 3 คน ออกไปแล้ว ตนก็ยืนหันหลังคีย์ข้อมูลใส่ในคอมพิวเตอร์ของร้าน อยู่ที่เค้าท์เตอร์อยู่เพียงลำพัง เนื่องจากพนักงานคนอื่นกำลังจัดของอยู่ที่ชั้นวางของภายในร้าน
น.ส.ศิวพร ให้การต่อว่า เมื่อไม่มีลูกค้าในร้านแล้ว คนร้ายก็เดินปลี่เข้ามาด้านหลังเค้าท์เตอร์ เมื่อหันมาคนร้ายก็ตกใจ
เพราะสังเกตุเห็นมีดปลายแหลม สีดำ ยาวประมาณ 1 ฟุต ในมือขวา โดยคนร้ายก็ไม่พูดจาอะไร ก่อนจะรีบนั่งยองๆลงกดเอาเงินสำหรับทอน ม้วนใส่หลอดเก็บลิ้นชักที่ใต้เคาท์เตอร์ใส่กระเป๋าไปประมาณ 3,600 บาท แล้วเดินออกจากร้าน ก่อนจะวิ่งไปขี่รถจยย.ที่จอดเลยร้านไปประมาณ 20 เมตรหลบหนีไป ทั้งนี้ตนกลัวว่าจะถูกทำร้ายจึงยืนนิ่งเฉยๆ ตอนแรกก็คิดว่าจะหยิบเอาขวดตีศีรษะคนร้าย แต่ก็ไม่กล้า ซึ่งหลังตั้งสติได้โทรศัพท์แจ้งผู้จัดการแล้วค่อยโทรแจ้งตำรวจทันที
ด้าน พ.ต.ท.ศรศักดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเห็นใบหน้าของคนร้ายชัดเจน อายุไม่น่าจะเกิน 25 ปี
ขณะก่อเหตุก็ไม่ได้แสดงตัวหรือชักมีดข่มขู่ เพียงแต่ถือมีดแนบมากับกระเป๋าเป้ พนักงานเห็นมีดก็ไม่กล้าขวาง ก่อนจะตรงเข้าไปที่เค้าท์เตอร์แล้วก้มนั่งลงเอาเงินที่เก็บใส่หลอดเป็นเงินทอน ซึ่งจากพฤติการณ์น่าจะเป็นคนที่รู้จักวิธีเอาเงินตรงนี้ คาดว่าถ้าไม่เป็นพนักงานเก่า ก็ต้องเป็นคนที่เคยทำงานที่ร้านเซเว่นฯมาก่อน ถึงได้รู้ขั้นตอนและที่เก็บเงินเป็นอย่างดี โดยใช้เวลาลงมือตั้งแต่เข้ามาภายในร้าน แล้วก่อเหตุจนออกไปจากร้านไม่ถึง 1 นาที เชื่อว่าจะติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ไม่ยาก เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุและละแวกใกล้เคียง ตามเส้นทางที่คาดว่าใช้หลบหนี รวมทั้งประวัติพนักงานเก่าพนักงานใหม่มาตรวจสอบ เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป