ขาใหญ่บางแสน ยิงดับเทคโนฯ

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 25 มี.ค. พ.ต.ต.วินิจ ผันอากาศ สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองชลบุรี รับแจ้งมีเหตุยิงกัน ที่ถนนพระยาสัจจา ตรงข้ามร้านข้าวต้ม เจ๊กี หมู่ 1 ต.บ้านสวน ไปสอบสวนที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.โชคชัย เหลืองอ่อน ผกก. พบกองเลือด ส่วนคนเจ็บมี 2 คน

ถูกนำส่ง รพ.เอกชล จึงตามไปสอบสวนทราบชื่อนายภานุพงษ์ เสียงดัง อายุ 24 ปี บ้านเดิมอยู่ เลขที่ 33/2 หมู่ 2 ต.บ้านเหล่า อ.สูงเม่น จ.แพร่ ถูกยิงด้วยปืน .38 เข้ากลางหลังกระสุนฝังใน 1 นัด สิ้นใจในเวลาต่อมา ส่วนคนเจ็บชื่อนายสาโรช ใช้ฮวดเจริญ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/24 หมู่ 2 ต.ปากน้ำ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ถูกยิงบริเวณไหล่ขวาทะลุ 1 นัด

สกัดจับคนร้ายได้ทันควัน

จากการสอบสวนพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่า คนร้ายมีด้วยกัน 2 คน หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ บึ่งหนีไปทางถนนการเคหะแห่งชาติ ต.เสม็ด ตัดออกถนนสุขุมวิท เลี้ยวขวาไปทางสามแยกทางลงหาดบางแสน ต่อมา ร.ต.อ.มนัส สกลศิลปศิริ รอง สวป.สภ.อ.เมือง ชลบุรี พร้อม จ.ส.ต.ชรินทร์ ศรีจันทร์ และ ส.ต.อ.ระพีพัชร พรหมมินทร์ ไล่ติดตามสกัดจับคนร้ายทั้งสองได้ บริเวณหน้าวัดตาลล้อม ต.เหมือง

พร้อมรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 125 สีแดงคาดดำ ทะเบียนป้ายแดง 24-187 สภ.อ.เมืองชลบุรี ทราบชื่อต่อมาคือนายวิทยา ซุ่นไล่ เจ้าของฉายา โก แหลมแท่น อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/23 ซอย 10 ถนนบางแสนสาย 3 ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี และนายอภิสิทธิ์ สะอาดศรี อายุ 20 ปี บ้านอยู่ ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี คุมตัวผู้ต้องหาทั้งคู่มาให้นายสาโรชคนเจ็บชี้ตัว ปรากฏว่านายสาโรชชี้ตัวได้ถูกต้องโดยระบุว่า นายวิทยาเป็นคนขี่รถและชักปืนยิงผู้ตาย ส่วนนายอภิสิทธิ์นั่งซ้อนท้ายรถมากับมือปืน

ทั้งนี้ พยานเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ นายภานุพงษ์ ผู้ตายพร้อมเพื่อน 8 คน ชวนกันมาเที่ยวที่บิชชี่ผับ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร กระทั่งผับเลิกได้พากันออกมายืนที่กลางถนนหน้าผับ ระหว่างนั้นนายวิทยากับเพื่อนขี่รถออกจากผับแห่งเดียวกันมาเฉี่ยวชนนายต้น ไม่ทราบนามสกุล เพื่อนในกลุ่มของผู้ตายจนเกิดมีปากเสียงชกต่อยกัน

แต่มีเจ้าหน้าที่มาห้ามปรามเลิกราแยกย้ายกันไป จากนั้นผู้ตายกับเพื่อนๆ ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดริมถนนฝังตรงข้ามร้านข้าวต้ม เจ๊กี เพื่อจะเดินข้ามถนนเข้าไปกินข้าวต้มในร้าน ระหว่างนั้นนายวิทยาขี่รถจักรยานยนต์ตามมาพร้อมชักปืนกระหน่ำใส่กลุ่มนายต้นคู่อริ 6 นัดซ้อน กระสุนถูกนายภานุพงษ์ และนายสาโรชล้มทรุดเสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว

ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ

จากการสอบปากคำนายวิทยาและนายอภิสิทธิ์ ผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เนื่องจากผู้เสียหายชี้ตัวยืนยัน และจากการตรวจสอบประวัติทราบว่า นายวิทยาเคยต้องโทษคดียาเสพติดและคดีพยายามฆ่าเพิ่งพ้นโทษออกมา

และนายอภิสิทธิ์เพื่อนคู่หูเป็นหัวโจกขาใหญ่ย่านแหลมแท่น ส่วนนายภานุพงษ์ ผู้ตายเพิ่งเรียนจบจากโรงเรียนประภัสสรเทคโนโลยีชลบุรี และเตรียมตัวจะบวชทดแทนคุณบิดามารดาในอีก 2 เดือน ข้างหน้า ก็มาถูกยิงตายเสียก่อน