ล่าโจรมาดเสี่ยบุกชิงทองกลางห้างปากน้ำโพ

ล่าโจรมาดเสี่ยบุกชิงทองกลางห้างปากน้ำโพ

โจรมาดเสี่ยบุกชิงทองห้างดังกลางเมืองปากน้ำโพ วางแผนขอดูสร้อยคอทองคำจากพนักงานได้จังหวะคว้าติดมือหลบหนี ตำรวจตรวจกล้องวงจรปิดออกตามล่า

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10ก.ย.  ร.ต.ต.ไพศาล คล้ายแก้ว ร้อยเวร สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายชิงสร้อยคอทองคำภายในร้ายทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสาขา 2 นครสวรรค์ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วจึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.คณากร รุ่งขจรกลิ่น ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนในสังกัด

ที่เกิดเหตุ พบพนักงานร้านทองดังกล่าว กำลังยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยสีหนาที่ตกใจ

โดยให้การว่า มีคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 35-40 รูปร่างท้วม ผิวขาว สวมเสื้อเชิ๊ตแขนยาวลายทาง นุ่งกางเกงยีน ใส่แว่นตา ลักษณะมีฐานะ เดินถือถุงกระดาษ ทำทีเข้ามาขอดูสร้อยคอทองคำภายในร้าน ซึ่งมีการขอชมสร้อยคอน้ำหนัก 4 บาท และ 5 บาท จึงได้หยิบให้ดู แต่ในระหว่างที่ชายคนดังกล่าวกำลังลองสวมใส่สร้อยทองที่คออยู่นั้น ปรากฏว่า อาศัยช่วงจังหวะที่พนักงานขายไม่ทันระวัง วิ่งเชิดทองออกจากร้านหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งคนร้าย สามารถนำทองไปได้ 2 เส้น น้ำหนักรวม 9 บาท มูลค่า 198,550 บาท

เบื้องต้น พ.ต.อ.คณากร ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ ให้เข้าเก็บรอยนิ้วมือแฝง รวมทั้งหนักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ

พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้านทอง และห้างสรรพสินค้า เพื่อหาเส้นทางหลบหนีของคนร้าย ซึ่งมีข้อมูลจากทางพนักงานร้านขายทองว่า คนร้ายได้วิ่งหนีไปขึ้นรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ที่จอดอยู่บริเวณหน้าห้าง ก่อนขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางสี่แยกพหลโยธินแล้วหายไป

ทั้งนี้ เวลาต่อมา น.ส. นงลักษณ์ พลศักดิ์ หนึ่งในพนักงานร้านขายทอง พร้อมเพื่อนร่วมงานอีก 3 คน

ร่วมนำภาพกล้องวงจรปิดมามอบให้กับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ และให้ปากคำเพิ่มเติม ส่วนการสอบสวนล่าสุด มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ออกหมายจับคนร้ายตามภาพกล้องวงจรปิดที่ถูกบันทึกภาพไว้แล้ว และคาดว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นคนต่างพื้นที่ด้วย เนื่องจากได้หลักฐานภาพกล้องวงจรปิด ที่สามารถจับภาพรถยนต์ของคนร้ายขับรถหลบหนีมุ่งหน้าไปทาง จ.กำแพงเพชร ซึ่งจะมีการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์