หนุ่มเครียดปีนหลังคา ใช้สายไฟรัดคอโดดลงมา จนท.ช่วยได้หวุดหวิด

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 5 ก.ย. ขณะที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ กำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้รับแจ้งว่ามีชายหนุ่มเกิดอาการเครียดปีนขึ้นไปบนหลังคาอาคารเก็บของสภ.เมืองสุรินทร์ รีบเดินทางไปตรวจสอบพบชายหนุ่มทราบชื่อนายสุเทพ ดีเสมอ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/3 บ้านน้ำคำ ม.5 ต.ธาตุ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ มีอาการคลุ้มคลั่งวิ่งเข้าทุบทำร้ายเข้าของภายในอาคารงานส่งกำลังบำรุง ซึ่งเป็นสถานที่เก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ ของ ภ.จว.สุรินทร์ จากนั้นปีนขึ้นไปอยู่บนหลังคา ระหว่างนั้นเกิดพลัดตกจากหลังคาเนื่องจากกระเบื้องมีสภาพเก่าประกอบกับนายสุเทพ พยายามกระโดดกระทืบและทุบหลังคากระเบื้อง จนแตกเป็นรูขนาดใหญ่หลายแห่ง ก่อนปีนกลับขึ้นไปบนหลังคาใหม่ พร้อมกับพร่ำสวนมนต์สารพัดและคุยกับพระอิศวร อย่างคนเสียสติ โดยอ้างตนมีอิทธิ์ฤทธิ์ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับ
 

โดย พ.ต.ท.ประกิจ เหลืองวิลัย รอง ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์และตำรวจสภ.เมืองสุรินทร์

  เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพนเรนทร รพ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยวีอาร์กู้ชีพสุรินทร์  และอพปร.เทศบาลเมืองสุรินทร์ กว่า 30 คนพยายามเข้าไปช่วยเหลือ แต่นายสุเทพถือเศษกระเบื้องปลายแหลมอยู่ในมือ เดินไปมาบนหลังคาบ้าน  กระทั่งเวลาผ่านไปกว่าชั่วโมง เจ้าหน้าที่ได้เกลี่ยกล่อมให้นายสุเทพลงมา โดยได้นำโต๊ะและเก้าอี้พลาสติกต่อให้ลงมาจากหลังคาได้โดยสะดวก แต่นายสุเทพได้ใช้สายไฟฟ้ารัดคอตัวเอง และดิ่งทิ้งตัวลงมาจากหลังคาเพื่อผูกคอฆ่าตัวตาย  เจ้าหน้าที่ได้พยายามช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถ จนดึงสายไฟฟ้าออกจากคอรอดชีวิตอย่างหวุดหวิด พร้อมกับรีบฉีดยาคลายเครียด ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล

จากการสอบถามนายสิงห์ ดีเสมอ อายุ 63 ปี พ่อและนายวิทยา ดีเสมอ อายุ 29 ปี น้องชาย

ให้การว่านายสุเทพเพิ่งกลับมาจากทำงานที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเช้าจากนั้นจู่ ๆ เกิดอาการสติแตก เนื่องจากก่อนหน้านี้นายสุเทพเคยมีอาการเครียด จนต้องพาเข้ารักษาตัวที่ รพ.รัตนบุรี มาแล้วหลายครั้ง ขณะที่นายวิทยาระบุว่า ได้ยินพี่ชายบ่นให้ฟังว่าจะมีคนมาทำร้ายและยิง เมื่อครั้งที่ทำงานอยู่ที่เขาใหญ่ จนต้องหนีเข้าป่า พอออกมาหวาดระแวงอีกว่ามีคนจะมาทำร้าย จากนั้นขอเงินทางบ้าน 500 บาท นั่งรถมาลงที่สถานีรถไฟสุรินทร์และอาละวาดดังกล่าว.