พ.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 14.10 น.วันที่ 29 ส.ค.56 มีเหตุทะเลาะวิวาทกันที่ทุ่งนาท้ายหมู่บ้านปากดง ต.นิคมสงเคราะห์ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบพบกองเลือดอยู่ข้างกอไผ่ และมีเสียมเปื้อนเลือดตกอยู่ 1 อัน ใกล้กระท่อมนาทราบต่อมาว่าผู้บาดเจ็บคือนายอนันต์ ภูด่าน อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 ม.1 บ้านปากดง ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี มีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมเข้าตามร่างกายหลายแห่งโดยเฉพาะที่หน้าท้องจนมองเห็นลำไส้ อาการสาหัส ส่วนผู้ก่อเหตุทราบต่อมาคือนายหัสนัย ใจทน อายุ 26 ปี มีที่นาและไร่สวนอยู่ติดกันหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปพร้อมอาวุธมีดพร้า 1 เล่ม จนกระทั่งช่วงเช้ามืดวันที่ 30 ส.ค.56 ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตลง โดยมี ด.ต.วิชัย มิตราช และตำรวจชุมชนตำบลนิคมสงเคราะห์ ที่ชำนาญเส้นทางป่าท้ายหมู่บ้านออกติดตามจับกุมนายหัสนัย ตลอดทั้งคืนจนสามารถจับกุมตัวไว้ได้ในขณะที่ผู้ต้องหาอิดโรยไม่ได้กินข้าวมาทั้งคืน
พ.ต.อ.โกวิท กล่าวอีกว่า นายหัสนัย ผู้ต้องหา ให้การวกวนเหมือนคนที่ยังขาดสติและควบคุมอารมณ์โมโหยังไม่ได้โดยรับสารภาพว่า ใช้มีดฟันนายอนันต์ จริง แต่เป็นการป้องกันตัวที่ถูกนายอนันต์ ใช้เสียมตีเข้าที่ใบหน้าหลายครั้งระหว่างทะเลาะกันที่ริมรั้วใกล้กอไผ่ โดยก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องทะเลาะกันมาแล้วหลายครั้งเนื่องจากมีที่นาที่ไร่ติดกัน โดยนายหัสนัย จะระแวงว่าผู้ตายเป็นคนเอาเปรียบและจะมาเผากระท่อม จึงเก็บความแค้นเอาไว้
ด้านนายสัมฤทธิ์ ใจทน อายุ 50 ปี พ่อของนายหัสนัย ผู้ต้องหา กล่าวว่า ลูกชายเคยเป็นทหารเกณฑ์ ประจำการอยู่ที่ท่าเรือสัตหีบ และมักจะมีอาการคลุ้มคลั่งเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เมื่อปลดประจำการก็ออกมาช่วยงานทำไร่ทำนา ยังไม่มีครอบครัว นานจะเห็นลูกคลุ้มคลั่ง และล่าสุดทราบว่ามีเรื่องทะเลาะกับนายอนันต์ ผู้ตายเรื่องที่ลูกชายเข้าใจว่านายอนันต์ เป็นคนจะไปเผากระท่อม และมักเอาเปรียบลูกชายเนื่องจากมีที่ไร่ที่นาติดกัน จนล่าสุดรู้ข่าวว่าขณะผู้ตายเอาเสียมไปขุดหาหน่อไม้ เมื่อเจอกันก็เปิดฉากทะเลาะกันรุนแรง ผู้ตายเอาเสียมตีลูกชายก่อน ทำให้ลูกชายโมโหคว้ามีดพร้าไล่ฟัน และลูกชายมีรูปร่างใหญ่โตกว่าผู้ตายมาก ทำให้ผู้ตายสู้ไม่ได้ถูกฟันจนเสียชีวิตดังกล่าว