แก๊งเงินกู้กว่า15คน ก่อเหตุไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง บุกถล่มบ้านแม่ค้าขายขนมพังเละ ทุบตีคนในบ้านจนได้รับบาดเจ็บ2คน สาเหตุขาดส่งเงินที่กู้มา2วัน ตร.เร่งติดตามจับกุมแก๊งคนร้ายเป็นการด่วนแล้ว
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 29 ส.ค. พ.ต.ท.วินิจ ศรีสูงเนิน พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.บางเขน
ได้รับแจ้งเหตุกลุ่มวัยรุ่นบุกทำลายข้าวของและทำร้ายร่างกาย ภายในบ้านเลขที่ 5/9 ม.4 ซอนเพิ่มสิน 20 แยก 13 ถนนเพิ่มสิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. จึงรุดเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.เสน่ห์ มณีฉาย สว.สส. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.บางเขน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้นอยู่ในรั้วรอบขอบชิด บนเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา
ตรวจสอบภายในบ้านพบข้าวของแตกกระจัดกระจายพังเสียหายจำนวนมาก อาทิ หลอดไฟ โทรทัศน์ขนาด 21 นิ้ว ประตูห้องนอน ประตูบ้าน จานชามแก้วน้ำ และที่บริเวณลานจอดรถหน้าบ้านพบรถจยย.ที่จอดอยู่ ถูกพังเสียหายไปอีกจำนวน 3 คัน นอกจากนี้ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธมีดและของแข็ง ฟันและทุบตีตามลำตัวได้บาดรับบาดเจ็บถูกนำส่งรพ.ภูมิพล ไปก่อนหน้านี้จำนวน 2 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายฉัตรชัย คารีวงศ์ อายุ 34 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกของแข็งฟาดที่แขนขวาจนหัก และถูกมีดฟันที่บริเวณลำตัวหลายแห่งอาการสาหัส และนายสมชาย เกิดสาย อายุ 52 ปี ได้รับบาดเจ็บจากการถูกของแข็งทุบตีตามลำตัว
สอบสวนนางปาริฉัตร เกิดสาย อายุ 50 ปี แม่ค้าขายขนมในตลาดเทพทิพย์ย่านสายไหม ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน
เล่าด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ได้มีข้อส่งเข้ามือถือของตนเองเข้ามาว่า “มึงกล้า มึงเก่งกับกูหรอ” จากนั้นไม่นานก็มีรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนขับมาจอดที่หน้าบ้าน โดยมีชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธครบมือประมาณ 15 คน ได้พากันกรูลงมา ก่อนใช้วัตถุคล้ายระเบิดปิงปอง ปาเข้ามาในบ้านจนเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ต่อมาก็ได้ใช้อาวุธทั้งมีดและเหล็กแป็บ กรูกันเข้ามาทำลายข้าวของและคนที่อยู่ในบ้าน เมื่อตนเห็นจึงพาลูกสะไภ้และหลานชายเข้าไปหลบภายในห้องนอน เมื่อเหตุการณ์สงบตนจึงพากันเดินออกมาก็พบนายสมชาย สามีของตนและนายฉัตรชัย หลายชาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายนอนร้องครวญครางอยู่กับพื้น ตนจึงรีบเรียกเพื่อนบ้านให้มาช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล
“ ส่วนสาเหตุนั้นน่าจะเกิดจากที่ตนไปกูเงินของแก๊งเงินกู้กลุ่มหนึ่งที่อยู่ย่านสายไหมในจำนวนเงิน 20,000 บาท คิดดอกเบี้ย 4,000 บาท รวมเงินที่ต้องส่งคือ 24,000 บาท ซึ่งจะแบ่งจ่ายเป็นรายวันละ 1,000 บาท ทั้งหมด 24 วัน และตนก็ส่งไปได้ 11 วัน ต่อมามารดาของตนไม่สบายจึงขอลดจำนวนเงิน มาเป็นวันละ 500 บาท และผ่อนไปได้อีก 7 งวด และเมื่อสองวันที่แล้วตนได้ขาดส่งไป 2 งวด เพราะต้องเอาเงินไปรักษามารดา ซึ่งวันนี้ตนก็ได้เตรียมเงินไว้ให้แล้ว แต่ก็มาถูกก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 2 แล้ว เพราะก่อนหน้านี้แก๊งเงินกู้ดังกล่าวได้มาทวงแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่เจอตน จึงได้ใช้ขวดแก้วเขวี้ยงเข้าไปในบ้านทำให้เศษแก้วไปถูกหลานจนได้รับบาดเจ็บมาแล้ว” นางปาริฉัตร เล่าทิ้งท้าย
ด้านพ.ต.อ.ชยุต เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ ก็พอจะทราบถึงกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้แล้ว โดยเป็นแก๊งเงินกู้ที่อยู่นอกพื้นที่ ซึ่งได้เข้ามาอาศัยปล่อยเงินกู้ตามพื้นที่ต่างๆ อย่างไรก็ตามตนก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามจับกุมแก๊งคนร้ายกลุ่มนี้ ที่ก่อเหตุอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วต่อไป