เมื่อถามว่า ทางพนักงานสอบสวนจะนำผลการตรวจสอบของพนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) มาตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับผลของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนที่สรุปมาแต่อย่างใด ยังไม่ถึงมือตำรวจเลย ถ้าให้ดีคณะกรรมการคนใดก็ได้ที่อยากจะเป็นข่าวเอาสรุปผลมาพบ พล.ต.ต.อนุชัย สอบปากคำเป็นพยานว่าเป็นอย่างไรกัน เรื่องจะได้จบไป อย่าเอาความนึกคิดจินตนาการของตัวเองอยู่คนเดียวมาหักล้างพยานหลักฐานดังกล่าว ซึ่งคดีนี้พร้อมที่จะไปว่ากันในศาลอยู่แล้ว
ด้าน พล.ต.ต.ประยนต์กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนดำเนินการตรวจสอบมา
ทราบว่ากรณีของนายสมชาย จิตปรีดากร นักธุรกิจที่ถูกอ้างว่าเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายสมชายรู้จักกับนายสันติภาพ เพ็งด้วงและเคยทำงานด้วยนั้น นายสมชายไม่รู้เรื่องดังกล่าวและไม่เคยเดินทางไปที่พรรคเพื่อไทยกับใครแต่อย่างใด ส่วนฮาร์ดดิสก์ที่ฝั่งนายสุวัฒน์อ้างว่านายสันติภาพนำไปฝังไว้นั้น ชุดสืบสวนได้ลงไปสอบถามพี่เขยของลูกพี่ลูกน้องทราบชื่อคือนายเอ็กซ์ โดยได้สอบปากคำไว้แล้วให้การว่า ครั้งแรกนายสันติภาพได้ลงไปหานายเอ็กซ์และพี่สาวที่เป็นญาติกันจริง เพื่อนำศพของนายเอกยุทธไปให้ทั้ง 2 คนนำไปฝังให้ แต่ทั้ง 2 คนกลัวผี จึงไม่ยอมฝังให้ และยังเห็นอีกว่าฮาร์ดดิสก์และโทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อนำใส่ถุงพลาสติกนำไปทุบทิ้งอยู่บริเวณข้างบ้านของญาติดังกล่าว ซึ่งยืนยันได้ว่าไม่ได้มีการนำไปฝังไว้ในจุดอื่นๆ แต่อย่างใด จะมีประโยชน์อะไร เพราะมีแค่นายสันติภาพและนายสุทธิพงษ์ พิมพิสาร เข้าไปในบ้านเพียง 2 คนเท่านั้น
"ส่วนข้อที่ 5 กรณีที่อ้างว่ามีรถนำ ผมได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่นายสันติภาพขับรถยนต์ของผู้ตายไป และตรวจสอบชื่อที่อยู่ของรถยนต์ที่วิ่งนำน่าจะเป็นรถนำหรือผ่านบริเวณดังกล่าวทั้งหมด ก็ไม่มีรถยนต์ต้องสงสัยที่เป็นพิรุธหรือหน้าจะเป็นรถนำแต่อย่างใด" ผบก.สส.บช.น.กล่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องรายงานของคณะกรรม กสม. ทาง บช.น.ยังไม่ได้รับข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด
โดยได้ตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายอำนวยการยังไม่ได้ ซึ่งอย่างที่ ผบช.น.ได้เรียนไว้แล้วว่า เราก็พร้อมที่จะพิจารณา ถ้ามีข้อมูลที่เกี่ยวข้องสามารถพิสูจน์ความผิดได้ ส่วนการตรวจสอบผลการชันสูตรพลิกศพอีกครั้งหรือไม่นั้น ไม่มีการตรวจสอบเพิ่มเติมแต่อย่างใด เนื่องจากรายงานการชันสูตรพลิกศพ ความเห็นแพทย์ตรงกับลักษณะบาดแผลและตรงกับสภาพศพ ตรงเหตุการณ์ทุกอย่าง คำรับของผู้ต้องหาก็สอดคล้องต้องกันว่าสาเหตุที่ตายเนื่องจากอะไร
"ต้องว่าตามรายงานแพทย์ที่มาให้การไว้กับเรา การที่ใครจะแสดงความคิดเห็นในส่วนต่างๆ ผมว่าพนักงานสอบสวนคงไม่มีขีดสามารถที่จะตามไปแก้ทุกจุด เราว่าไปตามพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวนที่เรารวบรวมได้ ส่วนพนักงานอัยการสั่งให้สอบประเด็นอะไรเพิ่มนั้น คงยังเปิดเผยไม่ได้ แต่ก็ได้มีการปรึกษาหารือกัน อะไรที่คิดว่าพนักงานอัยการเห็นว่าจะทำให้คดีมีน้ำหนักหรือสมบูรณ์ยิ่งขึ้น แนะนำมาเราก็ทำตามอำนาจของพนักงานอัยการ" พล.ต.ต.อนุชัยกล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนของวุฒิสภาเรียกเข้าพบ พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวว่า
เคยไปชี้แจงมาแล้ว รวมทั้ง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ก็เคยได้ไปชี้แจงมาแล้วกับคณะกรรมการ 3-4 ชุด วันนี้ได้ไปชี้แจงกับคณะกรรมการดังกล่าว โดยได้ตอบข้อซักถามตามที่สงสัยให้คำแนะนำอยู่ แต่ไม่สามารถตอบอะไรได้มาก เพราะสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวได้ส่งไปในชั้นพนักงานอัยการรอส่งฟ้องศาลอยู่แล้ว พนักงานสอบสวนก็ชี้แจงไปในสิ่งที่สามารถเปิดเผยได้และไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
เมื่อถามถึงการติดตามสิ่งของที่เหลือนั้น พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า
คดีนี้ทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้ายมี 10 กว่ารายการ เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามได้เกือบครบเป็นคดีที่เรียกว่าสมบูรณ์แบบมาก เพราะของกลางได้เพียบ ขาดเพียงแค่สร้อยและนาฬิกาเท่านั้น แต่ยังไม่เลิกก็ส่งรูปพรรณของกลางไปที่แผนกสืบจับ ซึ่งก็ต้องให้เวลาตำรวจด้วย และพยายามจะทำอย่างเต็มความสามารถ