"เพิ่มเป็น 30 ศพ"
ภายหลังจากกรมการขนส่งทางบกเตรียมออกกฎเหล็กป้องกันอุบัติเหตุรถทัวร์หรือรถโดยสาร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย กรณีเกิดโศกนาฏกรรมรถทัวร์สายอุบลราชธานี-กรุงเทพฯ ของบริษัทศรีสงวนยานยนต์ เกิดไฟลุกไหม้ระหว่างลงเนินที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ส่งผลให้ผู้โดยสารถูกย่างสดคาที่ 29 ศพ และถูกไฟคลอกบาดเจ็บ 31 คน
ต่อมามีผู้เสียชีวิตอีก 1 ศพ ทำให้ยอดตายเพิ่มเป็น 30 ศพ โดยมาตรการดังกล่าวจะมีการตรวจสภาพรถปีละ 2 ครั้ง และกำหนดอายุการใช้งานรถโดยสารที่จดทะเบียนใหม่ 7-10 ปี ขณะที่สาเหตุรถทัวร์มรณะประสบอุบัติเหตุ พบคันเกียร์และเพลากลางหลุดครูดกับพื้น เกิดประกายไฟกระเด็นไปติดน้ำมันที่รั่ว จนเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นนั้น
ต่อมาวานนี้ (23 มี.ค.) นายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ในวันที่ 26 มี.ค. กระทรวงคมนาคมจะเรียกประชุมคณะอนุกรรมการด้านวิศวกรรม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของเหตุเพลิงไหม้รถโดยสารของบริษัทศรีสงวนยานยนต์ จนมีผู้เสียชีวิตถึง 30 ราย หลังจากนั้นถึงจะพิจารณาว่าจะเพิกถอนใบอนุญาตเดินรถของผู้ประกอบการรายดังกล่าวหรือไม่ ขณะนี้ได้ลงโทษด้วยการสั่งพักรถไปแล้วเป็นเวลา 1 สัปดาห์
นายปิยะพันธ์ จำปาสุต รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัทขนส่งจำกัด หรือ บขส. กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร รักษาการผู้จัดการใหญ่ บขส. และเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุดังกล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการเดินรถ 1 คัน ของบริษัทศรีสงวนยานยนต์
เพราะเห็นว่าทำผิดระเบียบการบรรทุกผู้โดยสารเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยรถโดยสารคันเกิดเหตุจะต้องบรรทุกผู้โดยสารได้ไม่เกินคันละ 60 คน แต่รถคันดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสารมากถึง 66 คน และทำประกันเพียง 45 ที่นั่งเท่านั้น นอกจากนี้ ได้สั่งพักการเดินรถที่เหลืออีก 3 คัน โดยให้เวลาเจ้าของบริษัทศรีสงวนยานยนต์นำรถโดยสารทั้ง 3 คัน
ไปตรวจสอบสภาพและความแข็งแรงของตัวถังรถกับกรมการขนส่งทางบกก่อน ส่วนการอนุญาตให้เดินรถต่อไปหรือไม่ต้องดูความจริงใจในการรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนว่าเป็นอย่างไร คาดว่าจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการ บขส. พิจารณาอีกครั้งในวันที่ 19 เม.ย.