จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมมือกับชาวอุซเบกิสถาน อุ้มสถาปนิกและวิศวกรชาวอิตาลีไปรีดไถเงิน 2 ล้านบาท โดยยัดข้อหาว่าชาวอิตาลีทั้ง 2 คนใช้บัตรอิเลคทรอนิกส์ปลอมกดเงิน แต่ผู้เสียหายโทรแจ้งญาติที่ประเทศอิตาลีให้แจ้งตำรวจทำการช่วยเหลือ จนกลุ่มคนร้ายไหวตัวหลบหนีไป ซึ่งภายหลังสืบทราบว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นตำรวจสังกัด บก.น.5 จริงจำนวน 4 นาย และเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม ด.ต.สถิตย์ จันทร์โสม จ.ส.ต.ภูริพัศ ชื่นจำปา สอง ผบ.หมู่ ป.สน.ทองหล่อ และนายมูฮิดดิน ชาริปอฟ ชาวอุซเบกิสถานได้แล้ว 3 ราย ยังคงเหลือ ร.ต.ท.วิรัตน์ อินทร์ยอด กับ ร.ต.ท.อัครเนตร มุฑาวัน ทั้งคู่เป็นรองสวป.ทำหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด สน.ลุมพินี ที่ยังหลบหนีอยู่ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 25 ส.ค. พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ ผบก.น.5 เปิดเผยความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า ร.ต.ท.วิรัตน์ กับ ร.ต.ท.อัครเนตร รองสวป.ลุมพินี ทำหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด สน.ลุมพินี สองผู้ต้องหายังคงหลบหนีอยู่ไม่มีการติดต่อขอเข้ามอบตัวอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.5 และ สน.ลุมพินี แบ่งหน้าที่กันทำงานในการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน โดยให้ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี ลงพื้นที่หาข่าวในพื้นที่กทม. ส่วน กก.สส.บก.น.5 นั้นให้ลงพื้นที่ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องรอบพื้นที่กทม.และตามต่างจังหวัด
พล.ต.ต.สืบศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าผู้ต้องหาทั้งคู่หลบหนีไปกบดานในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจาก ร.ต.ท.วิรัตน์ มีภูมินำเนาเดิมอยู่ที่ภาคใต้นั้นข้อมูลยังไม่แน่ชัด กำลังหาข่าวอยู่ อย่างไรก็ตามได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวทั้งคู่มาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ยังสั่งกำชับพนักงานสอบสวน ให้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานทั้งภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหว รวมถึงคำให้การของพยานทุกปาก เพื่อให้สำนวนมีความแน่นหนามากที่สุด ซึ่งขณะนี้เกือบสมบูรณ์แล้ว ส่วนเรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจทั้ง 4 คน ก็ได้กำชับว่าให้รีบรายงานผลมาให้ทราบให้เร็วที่สุดตามระเบียบของคำสั่ง..