4 นร.มัธยมแจ้งจับครูขอร่วมเพศ

4 นร.โรงเรียนมัธยมดังแจ้งจับครู ฉุนถูกพูดจาลวนลามขอร่วมเพศ อ้างเมื่อ 10 วันก่อน โดนเรียกไปพบในห้องทำงานช่วงพักเที่ยง ทำทีถามเรื่องการเรียน ก่อนวกเข้าเรื่องใต้สะดือ สุดท้ายเอ่อปากขอมีเพศสัมพันธ์ ตบะแตกลุกหนีออกนอกห้องไปฟ้องผอ. แล้วให้ผู้ปกครองพาพึ่งตำรวจ ยันต้องการให้ลงโทษปลดหรือย้ายพ้นโรงเรียน ตำรวจแจงครูที่ถูกกล่าวหาเข้าพบแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมปฏิเสธ ชี้หากผิดจริงเข้าข่ายดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า โทษแค่ปรับไม่เกิน 1,000 บาท

เหตุนักเรียนสาวแจ้งจับครูอ้างพูดจาลวนลามทางเพศครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 มี.ค. พ.ต.ต.สันติ ทองเชื้อ สวส.สภ. อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เรียกตัว น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี น.ส.ซี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นร.ชั้น ม.3 ทั้งหมด และ ด.ญ.ดี (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี นร.ชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อุทัยธานี เข้าสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากเมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ผู้ปกครองพานักเรียนทั้งหมด เข้าแจ้งความอ้างว่าถูกอาจารย์ชายคนหนึ่งของโรงเรียนพูดจาลวนลามทางเพศ

นักเรียนทั้งหมดให้การตรงกัน อ้างว่าช่วงพักเที่ยงวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา อาจารย์คนดังกล่าวได้เรียกให้ไปพบที่ห้องทำงานส่วนตัว โดยไม่มีอาจารย์คนอื่นอยู่ จากนั้นพูดจาสอบถามเรื่องการเรียน ก่อนจะวกเข้าเรื่องเพศ เริ่มจากถามว่ามีประจำเดือนกันหรือยัง เป็นสาวหรือยัง หน้าอกใหญ่หรือเล็กแบบไหนดีกว่ากัน มีแฟนหรือยัง เคยได้เสียมีสัมพันธ์กันหรือไม่ สุดท้ายเอ่ยปากขอมีเพศสัมพันธ์ กระทั่งทนฟังไม่ได้ จึงลุกหนีเดินออกจากห้อง อาจารย์คนดังกล่าวยังตามออกมาถามว่าจะไปไหน กลุ่มนักเรียนสาวจึงตอบกลับไปว่า รับไม่ได้กับคำพูดของอาจารย์ จากนั้นจึงปรึกษากันและไปเล่าให้ ผอ.โรงเรียน และผู้ปกครองฟัง ก่อนพากันเข้าแจ้งความ

น.ส.เอ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่คิดว่าอาจารย์จะทำแบบนี้ พวกหนูต้องการให้เอาผิดกับอาจารย์ จะสั่งย้ายไปอยู่ที่อื่นหรือปลดออกเลยก็ได้ เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับนักเรียนรุ่นน้อง ๆ หรือรุ่นต่อไปอีก ขณะที่มารดาของ น.ส.เอ บอกว่า ตอนแรกลูกมาเล่าให้ฟัง ยังคิดว่าลูกโกหก แต่พอเค้นถามความจริง ลูกก็ยังยืนยันคำเดิมว่าเป็นเรื่องจริง เลยต้องมาพึ่งตำรวจ เพราะโมโหและแค้นใจมาก เป็นอาจารย์มาพูดกับเด็กนักเรียนแบบนี้ได้ยังไง ส่วนมารดาของ น.ส.บี เล่าว่า อาจารย์คนที่ว่าเคยมาหาที่บ้านพร้อมครูอีก 2 คน ขอร้องว่าอย่าแจ้งความ แต่ตนตอบปฏิเสธไป บอกว่าเรื่องถึงตำรวจแล้ว มีอะไรไปว่ากันที่โรงพัก

ด้าน พ.ต.ต.สันติ เปิดเผยว่า เบื้องต้นลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งหากสอบสวนแล้วเป็นความจริง ก็เข้าข่ายข้อหาดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า ซึ่งเป็นความผิดลหุโทษ มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ทั้งนี้อาจารย์ที่ถูกกล่าวหาได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหา.