เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ส.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.
พร้อมด้วยพล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผบช.น. และพล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ ผบก.น.5 ร่วมกันแลงข่าวการจับกุมตัวนายโซบิยอน โซบิรอฟ อายุ 23 ปี ชาวอุซเบกิสถาน ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฆ่าแฟนสาวชาวอุซเบกิสถาน แล้วยัดใส่กระเป๋าเดินทางโยนทิ้งลงคลองพระโขนง โดยจับกุมตัวได้ภายในห้องพักเลขที่ 958/480 ชั้น 22อาคารบี เดอะวินนิ่ง ทาวเวอร์ ซอยปรีดีพนมยงค์ 40
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.00 น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พระโขนง ได้รับแจ้งพบศพหญิงสาวนิรนามถูกฆ่ายัดศพใส่กระเป๋าลอยน้ำมาติดที่บริเวณประตูระบายน้ำสถานีสูบน้ำพระโขนง แขวงพระโขนง เขตคลองเตย จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งหาเบาะแสของคนร้าย พร้อมทั้งเรียกประชุมชุดสืบสวนที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดคดี เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่าน จนกระทั่งช่วงบ่ายภายหลังจากประชุมเสร็จสิ้น ก็ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ซึ่งเป็นรปภ.ที่เคยผ่านการอบรมตามโครงการแจ้งเบาะแสอาชญากรรมของบช.น. ว่าพบผู้ต้องสงสัยเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผู้ที่ลงมือฆ่ายัดศพหญิงสาวตามที่ปรากฏเป็นข่าว โดยพักอยู่ที่เดอะวินนิ่ง ทาวเวอร์ ซอยปรีดีพนมยงค์ 40 ชุดจับกุมจึงเดินทางไปตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐาน ทำให้สามารถคลี่คลายคดีได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ขณะนี้ยังขาดพยานอีก 1 ปาก คือคนขับรถแท็กซี่ที่รับผู้ต้องหาขึ้นรถไป ขอให้เดินทางมาให้ปากคำเป็นหลักฐาน ส่วนรปภ.ที่แจ้งเบาะแสจะมอบเงินรางวัลให้ในวันที่บช.น. มีการประชุมบริหาร
ด้านพล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า ภายหลังได้รับแจ้งจากรปภ.ว่าพบผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุ ก็ได้เดินทางไปตรวจสอบหลักฐานต่างๆ
พร้อมกับประสานล่ามเพื่อมาพูดคุยกับผู้ต้องหา จากการรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทำให้ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าผู้ตาย ซึ่งเป็นแฟนสาว ชื่อนางสาวไลลา นิลูฟาร์ อายุ 24 ปี สาเหตุเกิดจากบันดาลโทสะที่ถูกผู้ตายทวงเงินและด่าทอถึงบุพการี จึงลงมือทำร้ายร่างกายทำให้น.ส.ไลลา เสียชีวิต ส่วนผลการชันสูตรศพอย่างไม่เป็นทางการพบว่าผู้ตายไม่ได้การตั้งครรภ์ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตแพทย์ยังระบุไม่ได้ เนื่องจากสภาพศพขึ้นอืดและปอดเน่า ต้องใช้เวลาในการผ่าพิสูจน์ให้แน่ชัด เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย ก่อนให้พนักงานสอบสวนควบคุมตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพระโขนงต่อไป
จากการสอบสวนผู้ต้องหาผ่านล่าม ทราบว่า นายโซบิยอน ยอมรับว่าลงมือฆ่าแฟนสาวจริง โดยรู้จักคบหากันมานานประมาณ 1 ปี เศษ
ซึ่งผู้ตายมีอาชีพเป็นหญิงขายบริการอยู่ย่านซอยนานา ในวันเกิดเหตุคือวันที่ 13 ส.ค. ได้มีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง จากนั้นผู้ตายได้ทวงเงินที่เคยหยิบยืม และด่าทอมารดา ทำให้บันดาลโทสะทำร้ายร่างกาย ไม่ได้ต้องการฆ่าให้เสียชีวิต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ ส่วนขั้นตอนการอำพรางหรือเอาศพไว้บริเวณไหนในห้องพัก ก่อนที่จะนำไปโยนทิ้ง นายโซบิยอนไม่ขอตอบ ต่อมาวันที่ 14 ได้เดินทางไปซื้อกระเป๋าเดินทางที่บริเวณสุขุมวิทซอย 3 ก่อนจะกลับมาที่ห้องพัก และยัดศพใส่กระเป๋าเดินทาง ขึ้นรถแท็กซี่นำไปโยนทิ้งดังกล่าว สำหรับนายโซบิยอนมีอาชีพรับจ้างอยู่ในโรงแรมที่อุซเบกิสถาน แต่เดินทางเข้ามาประเทศไทยเพื่อมาเที่ยว จนได้พบกับผู้ตาย และไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด
มีรายงานว่ามารดาของนายโซบิยอนพักอาศัยอยู่ที่ประเทศไทยมานานหลายปีแล้ว
โดยมีสามีถึง 5 คน ซึ่งสามีที่อุซเบกิสถานได้ส่งเงินมาให้ทุกเดือน จึงเช่าห้องพักที่เดอะวินนิ่ง ทางเวอร์ พักอาศัยอยู่เดือนละ 18,000 บาท ต่อมานายโซบิยอน ได้เดินทางมาเยี่ยมมารดา และอยู่เที่ยวที่ประเทศไทย กระทั่งพบกับน.ส.ไลลา จึงไม่ได้เดินทางกลับประเทศ โดยระหว่างที่คบหากัน นายโซบิยอนมักจะให้น.ส.ไลลา เป็นคนออกค่าใช้จ่าย กระทั่งวันเกิดเหตุมีปากเสียงกันรุนแรง ทำให้นายโซบิยอนบันดาลโทสะ ทำร้ายน.ส.ไลลา เสียชีวิต และนำศพไปทิ้งดังกล่าว