ภาพจาก ข่าวสดวันที่ 15 ส.ค. ร.ต.อ.วิรัช คงเสน ร้อยเวร สภ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย ภายในบ้านร้าง ในสวนยางพารา พื้นที่ ม.1 ต.อรัญคามวารี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.วิสุทธิ์ ภู่พันธ์ศรี ผกก. เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 สุราษฎร์ธานี แพทย์เวร รพ.เคียนซา เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาอำเภอเคียนซา
ที่เกิดเหตุเป็นสวนยางพาราพื้นที่กว่า 100 ไร่ ทั้งนี้ภายในบ้านปูนชั้นเดียว ซึ่งเป็นบ้านร้างกลางสวนยางดังกล่าว พบผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย นอนหงายเรียงกันอยู่พบพื้นกลางห้องโถงของบ้าน โดยศพแรกทราบชื่อภายหลัง ด.ช.เจษฎา คลองนุช อายุ 10 ขวบ สภาพสวมเสื้อยยืดแขนสั้นสีดำ ท่อนล่างไม่นุ่งกางเกงมีผ้าห่มคลุมปิดไว้ ใกล้กันพบศพนางสุภากรณ์ จันทร์แก้ว อายุ 32 ปี สภาพสวมเสื้อสีแดง ท่อนล่างไม่สวมกางเกง มีผ้าห่มคลุมปิดไว้เช่นกัน โดยที่ข้างศพพบกางเกงขาสั้นเต็มไปด้วยอุจจาระจำนวน 2 ตัว ถูกถอดทิ้งไว้
ส่วนที่อ่างเก็บน้ำด้านหลังบ้าน พบกางเกงขาสั้น เต็มไปด้วยอุจจาระถูกถอดทิ้งไว้ จำนวน 1 ตัว ภายในอ่างเก็บน้ำพบศพ นายสุพร คลองนุช อายุ 36 ปี สภาพเปลือยกายนอนคว่ำหน้าจมน้ำอยู่ในอ่างดังกล่าว คาดว่าทั้งหมดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชม. เบื้องต้นทราบว่าหมดเป็นพ่อ แม่ ลูกกันอยู่บ้านเลขที่ 130 ม. 1 ต.อรัญคามวารี อ.เคียนซา จ.สุราษฏร์ธานี ทั้งนี้จากการตรวจสอบภายในบ้านดังกล่าว พบขวดยาฆ่าหญ้า พร้อมภาชนะมีร่องรอยใส่ยาฆ่าหญ้า วางอยู่ นอกจากนั้นพบร่องรอยการก่อไฟและมีเศษอาหารถูกกินทิ้งไว้จำนวนหนึ่ง
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า สวนยางพาราดังกล่าวเป็นของนายสินชิน (สงวนนามสกุล) อายุ 74 ปี ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.00 น.วันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา นายวิน อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นลูกจ้างคนงานสัญชาติพม่า รับผิดชอบกรีดยางในสวนยางพาราที่เกิดเหตุเดินทางไปกรีดยางในสวนดังกล่าวปกติ พบทั้งสามคนแม่ลูกนอนเรียงกันอยู่ภายในบ้านดังกล่าว จึงตกใจกลัว ไม่กล้ากรีดยาง เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นกลุ่มโจร จึงได้เดินทางกลับ พร้อมโทรศัพท์ไปแจ้งให้นายสินชิน นายจ้างเจ้าของสวนทราบ
ต่อมาเมื่อเวลา 07.00 น.วันเดียวกัน นายธานินทร์ แซ่ภู่ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.อรัญคามวารี ได้พาชาวบ้านไปตรวจสอบที่บ้านดังกล่าว ก็พบว่าทั้งสามคนยังนอนหลับเรียงกันอยู่ครบทั้งสาม นายธานินทร์ เห็นว่าทั้งสามไม่น่าจะใช่โจรหรือคนร้าย น่าจะแค่คนเร่ร่อน ธรรมดาที่เข้ามาพักหลับนอนเฉยๆ จึงปล่อยให้ทั้งสามนอนพักอยู่ในบ้านดังกล่าวต่อไป ก่อนจะพากันเดินทางกลับ
จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุนายวิน ได้ย้อนกลับไปดูที่บ้านดังกล่าวอีกครั้ง ว่าทั้งสาม ได้ออกจากบ้านไปแล้วหรือยัง ทั้งนี้เมื่อไปถึงพบเพียงสองแม่ลูก นอนอยู่ ส่วนนายสุพร ได้หายตัวไป เมื่อเรียกตะโกนถามอะไร ก็ไม่มีใครตอบรับกลับมา จึงกลับไปตามชาวบ้านละแวกใกล้เคียงเข้าตรวจสอบภายในบ้านดังกล่าวอีกครั้ง พบว่าทั้งสามเสียชีวิตดังกล่าว
ทางด้าน พ.ต.อ.วิสุทธิ์ ภู่พันธ์ศรี ผกก.สภ.เคียนซา กล่าวว่า จากการสอบเบื้องต้นทราบว่านายสุพร ก่อนหน้านี้มีอาชีพรับซ่อมรถ จยย.มีบ้านพัก ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตรอยต่อกับพื้นที่เกิดเหตุหลังจากนั้นได้หายออกจากบ้านพร้อมภรรยาและลูก โดยไม่มีใครรู้ว่าไปอยู่ที่ไหนอย่างไร จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุประมาณ 1-2 วัน มีชาวบ้านมาพบเห็นทั้งสาม เดินเร่ร่อน เก็บผัก ผลไม้กิน อยู่ใกล้ๆ บริเวณสวนยางพาราที่เกิดเหตุ และมาพบเป็นศพดังกล่าว
โดยสาเหตุคาดว่านายสุพร และภรรยา อาจจะมีปัญหาที่ไม่สามารถหาทางออกให้กับครอบครัวได้ ก่อนจะตัดสินใจกินยาฆ่าหญ้า เพื่อฆ่าตัวตายทั้งครอบครัว ซึ่งหลังจากกินยาฆ่าหญ้าเข้าไป ทำให้ทั้งหมดท้องเสีย ขณะที่นายสุพร อาจจะยังมีเรี่ยวแรงอยู่พยายามไปที่อ่างเก็บน้ำด้านหลังบ้าน เพื่อหาน้ำดื่มและเกิดพลาดลื่นเสียหลักตกลงในอ่างน้ำเสียชีวิตดังกล่าว
ที่เกิดเหตุเป็นสวนยางพาราพื้นที่กว่า 100 ไร่ ทั้งนี้ภายในบ้านปูนชั้นเดียว ซึ่งเป็นบ้านร้างกลางสวนยางดังกล่าว พบผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย นอนหงายเรียงกันอยู่พบพื้นกลางห้องโถงของบ้าน โดยศพแรกทราบชื่อภายหลัง ด.ช.เจษฎา คลองนุช อายุ 10 ขวบ สภาพสวมเสื้อยยืดแขนสั้นสีดำ ท่อนล่างไม่นุ่งกางเกงมีผ้าห่มคลุมปิดไว้ ใกล้กันพบศพนางสุภากรณ์ จันทร์แก้ว อายุ 32 ปี สภาพสวมเสื้อสีแดง ท่อนล่างไม่สวมกางเกง มีผ้าห่มคลุมปิดไว้เช่นกัน โดยที่ข้างศพพบกางเกงขาสั้นเต็มไปด้วยอุจจาระจำนวน 2 ตัว ถูกถอดทิ้งไว้
ส่วนที่อ่างเก็บน้ำด้านหลังบ้าน พบกางเกงขาสั้น เต็มไปด้วยอุจจาระถูกถอดทิ้งไว้ จำนวน 1 ตัว ภายในอ่างเก็บน้ำพบศพ นายสุพร คลองนุช อายุ 36 ปี สภาพเปลือยกายนอนคว่ำหน้าจมน้ำอยู่ในอ่างดังกล่าว คาดว่าทั้งหมดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชม. เบื้องต้นทราบว่าหมดเป็นพ่อ แม่ ลูกกันอยู่บ้านเลขที่ 130 ม. 1 ต.อรัญคามวารี อ.เคียนซา จ.สุราษฏร์ธานี ทั้งนี้จากการตรวจสอบภายในบ้านดังกล่าว พบขวดยาฆ่าหญ้า พร้อมภาชนะมีร่องรอยใส่ยาฆ่าหญ้า วางอยู่ นอกจากนั้นพบร่องรอยการก่อไฟและมีเศษอาหารถูกกินทิ้งไว้จำนวนหนึ่ง
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า สวนยางพาราดังกล่าวเป็นของนายสินชิน (สงวนนามสกุล) อายุ 74 ปี ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.00 น.วันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา นายวิน อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นลูกจ้างคนงานสัญชาติพม่า รับผิดชอบกรีดยางในสวนยางพาราที่เกิดเหตุเดินทางไปกรีดยางในสวนดังกล่าวปกติ พบทั้งสามคนแม่ลูกนอนเรียงกันอยู่ภายในบ้านดังกล่าว จึงตกใจกลัว ไม่กล้ากรีดยาง เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นกลุ่มโจร จึงได้เดินทางกลับ พร้อมโทรศัพท์ไปแจ้งให้นายสินชิน นายจ้างเจ้าของสวนทราบ
ต่อมาเมื่อเวลา 07.00 น.วันเดียวกัน นายธานินทร์ แซ่ภู่ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.อรัญคามวารี ได้พาชาวบ้านไปตรวจสอบที่บ้านดังกล่าว ก็พบว่าทั้งสามคนยังนอนหลับเรียงกันอยู่ครบทั้งสาม นายธานินทร์ เห็นว่าทั้งสามไม่น่าจะใช่โจรหรือคนร้าย น่าจะแค่คนเร่ร่อน ธรรมดาที่เข้ามาพักหลับนอนเฉยๆ จึงปล่อยให้ทั้งสามนอนพักอยู่ในบ้านดังกล่าวต่อไป ก่อนจะพากันเดินทางกลับ
จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุนายวิน ได้ย้อนกลับไปดูที่บ้านดังกล่าวอีกครั้ง ว่าทั้งสาม ได้ออกจากบ้านไปแล้วหรือยัง ทั้งนี้เมื่อไปถึงพบเพียงสองแม่ลูก นอนอยู่ ส่วนนายสุพร ได้หายตัวไป เมื่อเรียกตะโกนถามอะไร ก็ไม่มีใครตอบรับกลับมา จึงกลับไปตามชาวบ้านละแวกใกล้เคียงเข้าตรวจสอบภายในบ้านดังกล่าวอีกครั้ง พบว่าทั้งสามเสียชีวิตดังกล่าว
ทางด้าน พ.ต.อ.วิสุทธิ์ ภู่พันธ์ศรี ผกก.สภ.เคียนซา กล่าวว่า จากการสอบเบื้องต้นทราบว่านายสุพร ก่อนหน้านี้มีอาชีพรับซ่อมรถ จยย.มีบ้านพัก ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตรอยต่อกับพื้นที่เกิดเหตุหลังจากนั้นได้หายออกจากบ้านพร้อมภรรยาและลูก โดยไม่มีใครรู้ว่าไปอยู่ที่ไหนอย่างไร จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุประมาณ 1-2 วัน มีชาวบ้านมาพบเห็นทั้งสาม เดินเร่ร่อน เก็บผัก ผลไม้กิน อยู่ใกล้ๆ บริเวณสวนยางพาราที่เกิดเหตุ และมาพบเป็นศพดังกล่าว
โดยสาเหตุคาดว่านายสุพร และภรรยา อาจจะมีปัญหาที่ไม่สามารถหาทางออกให้กับครอบครัวได้ ก่อนจะตัดสินใจกินยาฆ่าหญ้า เพื่อฆ่าตัวตายทั้งครอบครัว ซึ่งหลังจากกินยาฆ่าหญ้าเข้าไป ทำให้ทั้งหมดท้องเสีย ขณะที่นายสุพร อาจจะยังมีเรี่ยวแรงอยู่พยายามไปที่อ่างเก็บน้ำด้านหลังบ้าน เพื่อหาน้ำดื่มและเกิดพลาดลื่นเสียหลักตกลงในอ่างน้ำเสียชีวิตดังกล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
