ปคม.บุกจับร้านนวดกะปู๋ “บริการทางเพศ ชายรักชาย” กลางเมืองอุดรฯ

เมื่อ 29 ก.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พ.ต.อ.ประวิตร ชูศรี ผกก.3 บก.ปคม. ร.ต.อ.เสรี ทวีทรัพย์ชวนัล สว.กก.3 บก.ปคม.
 
นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามการค้ามนุษย์ 7 นาย บุกเข้าไปในสถานบริการนวดแผนโบราณ ที่แอบแฝงขายบริการทางเพศชาย “นวดกะปู๋” ชื่อร้าน “เจนเทิล” ในตึกอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เลขที่  74/10 ถ.อดุลยเดช เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังจากสืบทราบว่าในร้านเปิดให้มีการขายบริการทางเพศชายพวกไม้ป่าเดียวกัน หรือชายรักชาย และควบคุม นายเอก อายุ 18 ปี ราษฎร ต.พุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ผู้ดูแลร้าน นายบุญทวี ไม่มีนามสกุล อายุ 25 ปี ราษฎรบ้านหนองทา แขวงนครเวียงจันทร์ สปป.ลาว นายวันนะคอน อ้วนวงสา อายุ 23 ปี ราษฎรชาวลาว นายบุญเดียง เนตรแสงสี อายุ 27 ปี ราษฎรชาวลาว และนายสุรัตน์ โกลากุล อายุ 28 ปี ชาวอุดรธานี ส่วนนายปรวรรต ทิพรักษ์ อายุ 48 ปี เจ้าของร้าน หลบหนีไปได้

โดยก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ประวิตรฯ ได้สืบทราบว่า ที่ร้านดังกล่าว ได้เปิดให้มีการขายบริการทางเพศชาย หรือชายรักชาย 

หลังจากนั้นจึงมอบหมายให้ ร.ต.อ.เสรีฯ ได้วางแผนทำการล่อซื้อบริการทางเพศทางโทรศัพท์ จากนายปรวรรต ฯ เจ้าของร้านหรือพ่อเล้า ก่อนเจ้าของร้านจะส่งรูปหนุ่มรูปหล่อที่อยู่ในสังกัดทางไลน์ ทั้งหมด 11 คน ตกลงราคากันเป็นเงิน 1500 บาท ต่อครั้ง หลังจากนั้นจึงได้ส่งสายลับออกไปติดต่อของใช้บริการ แล้วนำกำลังไปซุ่มโดยรอบ เมื่อสายลับเข้าไปใช้บริการพบกับนายเอกชัยฯ หลานชายเจ้าของร้านและเป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยในร้าน ได้นำขึ้นชั้น 3 ของร้านโดยมีนายบุญทวี ที่เตรียมถุงยางอนามัยให้ 2 อันพร้อมเจลหล่อลื่น 4 ซอง และเมื่อสายลับได้จ่ายเงินที่ถ่ายเอกสารไว้แล้วให้กับนายบุญทวีฯ และรับถุงยางอนามัยและเจลฯ มาก็ส่งสัญญาณให้กับ ร.ต.อ.เสรี ที่นำกำลังไปซุ่มอยู่ ได้เข้าจับกุมทันที

จากการตรวจค้นภายในห้องพักบนชั้น 2 และชั้น 4 ของร้านพบ นายวันนะคอน นายบุญเดียง และนายสุรัตน์ และพบเจลหล่อลื่น จำนวน 2 กล่องใหญ่ ในเคาน์เตอร์ภายในร้าน ส่วนเจ้าของร้านล่องหนไม่ยอมปรากฏตัว หลังจากหลานชายและตำรวจติดต่อ ก่อนจะปิดโทรศัพท์หนี

จากการสอบสวนนายเอกชัย ให้การรับสารภาพว่าได้เป็นคนดูแลร้านให้นายปรวรรต ผู้มีศักดิ์เป็นลุง ร้านเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2552

ซึ่งตนทำหน้าที่ดูแลร้านมาเมื่อช่วงต้นปี 2556 และได้รับค่าจ้างวันละ 100 บาท พร้อมกับที่พักและกินอยู่ฟรีภายในร้าน ส่วนหนุ่มลาวหน้าตาดีทั้ง 3 คน เป็นเด็กที่ประจำอยู่ในร้านที่เดินทางไปกลับทุก 1 เดือน ส่วนที่ตำรวจมีหลักฐานรูปถ่ายของเด็กหนุ่มในสังกัด อีก 7 คน ได้เดินทางกลับบ้านที่ สปป.ลาว แล้ว โดยจะได้ค่าจ้างค่านวดพิสดาร “นวดกะปู๋” ครั้งละ 1,500 บาท แล้วเจ้าของร้านให้ตนเป็นคนหักค่าทำเนียมไว้ 50 เปอร์เซ็นต์ หรือ 750 บาทต่อครั้งที่ให้การบริการ โดยที่ทางร้านไม่ได้บังคับหนุ่มหล่อเหล่านี้แต่อย่างใด เป็นการสมัครใจทำงานมากกว่า เพราะพวกเขาเหล่านี้ก็มีนิสัยส่วนตัวคือรักไม้ป่าเดียวกัน

เบื้องต้นตำรวจ ปคม.ได้แจ้งข้อกล่าวหา นายปรวรรตร ทิพรักษ์ และนายเอกชัย ทิพรักษ์ ว่า “เป็นธุระจัดหาค้าประเวณี”

ส่วนหนุ่มลาวทั้ง 3 คนและนายสุรัตน์ โกลากุล ทาง จนท.ตำรวจ ปคม. แจ้งข้อกล่าวหา”มั่งสุมในสถานการค้าประเวณี” ตาม พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ 2539 มาตรา 6 ก่อนควบคุมตัวส่ง ร.ต.อ.นันทพล เชื้อพรหมมา พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป