เผาโรงเรียนวิทยสัมพันธ์ อ.นครไทย พิษณุโลก

"ไหม้วอดไม่เหลือเสียหายกว่า ล้านบาท"


อาคารเรียนพร้อมอุปกรณ์วอดตำรวจพุ่งประเด็นนักเรียนไม่พอใจผลสอบปลายภาค ส่วนทหารลงพื้นที่หลังเกิดเหตุหวั่นสร้างสถานการณ์ พบรอยงัดห้องเก็บของ ผอ.โรงเรียนเผยเพิ่งให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเช็คนะบบไฟ 3 วันก่อน และไม่พบปัญหา มั่นใจลอบวางเพลิง

เมื่อเวลา 00.09 น. วันที่ 20 มีนาคม ร.ต.ท.ธนพล เมฆบุตร พนักงานสอบสวน สภ.อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตตุเพลิงไหม้ในโรงเรียนวิทยสัมพันธ์ หมู่ 4 บ้านซ้ำรู้ ต.ห้วยเฮี้ย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้อาคารไม้หลังเก่าอย่างรวดเร็ว กลุ่มชาวบ้านได้ระดมขนน้ำมาช่วยดับไฟ ขณะที่เทศบาลตำบลนครไทยได้ส่งรถดับเพลิงมาช่วย1 คัน แต่ไม่สามารถต้านทานเปลวเพลิงไว้ได้ ไฟได้ไหม้อาคารไม้ดังกล่าวเสียหายทั้งหมดในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง

ต่อมาเวลา 08.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.ขัตติยะ อนันตะพงษ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศักดา มีผดุง ผกก.สภ.อ.เมืองพิษณุโลก พ.อ.ศรายุธ รังสี ผู้บังคับการศูนย์ป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบกที่ 3 พ.ต.อ.สุรัตน์ บูญกำเนิด ผกก.วิทยาการเขต 33 จ.พิษณุโลก นายประพันธ์ ภู่งาม นายอำเภอนครไทย นางฐิติรัชต์ จันทร์ต้อย ผอ.สพท.พิษณุโลก เขต 3 พร้อมด้วยนายมนต์สัณต์ สุขสวัสดิ์ ผอ.โรงเรียนวิทยสัมพันธ์ และนายยุทธนา หุ่นทอง เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ต.บ้านแยง อ.นครไทย ได้เดินทางมาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ

"เพลิงไหม้อาคารไม้เก่า เชื้อเพลิงอย่างดี"


จากการตรวจสอบพบอาคารไม้หลังดังกล่าว เป็นอาคารไม้หลังเก่าชั้นเดียว ยกพื้นสูง ที่สร้างมาตั้งแต่ปี 2515 มีจำนวน 6 ห้องเรียน ใช้เป็นที่เรียนของนักเรียนชั้นเรียนของชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นประถม 3 ถูกเพลิงไม้อาคารพร้อมอุปกรณ์การเรียนเสียหายทั้งหมด ทั้งโต๊ะเรียน โทรทัศน์เพื่อการศึกษา จักรยานยืมเรียน มูลค่าเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ แต่คาดการณ์ว่ามากกว่า 1 ล้านบาท

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้ ในวันที่ 19 มี.ค.นายมนต์สัณธ์ สุขสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้เรียกประชุมครูและผู้ปกครองเพื่อประเมินผลการเรียนการสอนก่อนจะปิดภาคเรียน ซึ่งมีการประกาศผลสอบปลายภาคด้วย และเลิกประชุมในเวลาประมาณ 16.00 น. จากนั้น ได้มอบหมายให้ นายเดวิท เหล็งพั้ง เป็นครูเวร กระทั่งเวลาประมาณ 23.40 น. ของคืนวันที่ 19 มี.ค. นายเพียน จันพิม อายุ 48 ปี ชาวบ้านบ้านซำรู้ ที่ออกเดินหาเขียดกบมาพบว่าไฟกำลังลุกไหม้บริเวณด้านทิศตะวันออกของอาคาร จึงมาแจ้งผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านซ้ำรู้ให้ทราบ

จากนั้นผู้ใหญ่บ้านได้ออกประกาศเสียงตามสายให้ลูกบ้านมาช่วยกันดับไฟ พร้อมโทรศัพท์แจ้งขอรถดับเพลิงจากเทศบาล ต.นครไทยมาช่วย แต่ไฟได้ลุกไหม้ไปแล้วถึง 2 ห้องเรียน และลุกลามไปอย่างรวดเร็ว รถน้ำจึงต้องไประดมช่วยกันไม่ให้ไฟลามไปถึงบ้านพักครูที่อยู่ติดกัน นอกจากนี้ ช่วงเวลาเดียวกันที่พบไฟไหม้อาคารเรียนได้มีไฟไหม้กระท่อมที่อยู่ห่างจากอาคารเรียนดังกล่าวประมาณ 200 เมตร ที่เป็นเพิงสำหรับคนชราในหมู่บ้านใช้นั่งพักสานหลังคาหญ้าคาซึ่งเสียหายทั้งหมดเช่นกัน

"ไม่น่าใช่ ไฟฟ้าลัดวงจร เพราะเพิ่งตรวจสอบ"


ขณะที่การเก็บหลักฐานของตำรวจวิทยาการเขต 33 พิษณุโลก ได้มุ่งเก็บหลักฐานบริเวณต้นเพลิงทางด้านทิศตะวันออกของอาคารเรียน โดยเก็บคัทเอาท์ไฟฟ้าของอาคารเรียนไปตรวจสอบ และยังพบหลักฐานมีไฟแช็คตกอยู่ใกล้อาคารเรียนหนึ่งอัน นอกจากนี้บริเวณห้องเก็บของด้านทิศตะวันออกของอาคาร ยังพบว่ากุญแจสายยูที่คล้องปิดห้องเก็บของ มีร่องรอยการงัดแงะเข้าภายใน นอกจากนี้ บริเวณรอบตัวอาคาร ยังพบรอยล้อจักรยายนต์ยนต์จำนวนหลายคันอยู่ที่พื้นถนนลูกรัง เนื่องจากช่วงเย็นของวันที่ 19 มีนาคม มีฝนตกในพื้นที่

พ.ต.อ.ศักดา มีผดุง ผกก.สภ.อ.นครไทย เปิดเผยว่า ประเด็นไฟฟ้าลัดวงจรมีน้ำหนักไม่มากนัก เพราะโรงเรียนมีการตรวจระบบไฟฟ้าของอาคารเรียนดังกล่าวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ และมีการเผาใน 2 จุดพร้อม ๆ กัน เพราะในโรงเรียนเป็นทางผ่านในหมู่บ้านที่ชาวบ้านใช้สัญจรกันประจำ สามารถผ่านจากโรงเรียนไปด้านหลังได้ ขณะที่ครูเวรก็จะพักอยู่ในบ้านพักครูที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเพลิงไหม้ถือเป็นจุดอ่อนในการรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ก่อนเกิดเหตุซึ่งมีการประชุมผู้ปกคอรงเพื่อสรุปวันหยุดภาคเรียน และมีการประกาศผลสอบปลายภาค อาจจะเป็นกลุ่มผู้ผิดหวังจากผลการสอบ ตำรวจตั้งประเด็นกลุ่มวัยรุ่นมีน้ำหนักมากกว่า

นายมนต์สัณฑ์ สุขสวัสดิ์ ผอ.โรงเรียนวิทยสัมพันธ์ เปิดเผยว่า ในช่วงการณรงค์ดูแลสถานการณ์ความปลอดภัยของโรงเรียน ได้ตรวจเช็คระบบไฟฟ้าของอาคารทุกหลัง โดยอาคารดังกล่าว การไฟฟ้าภูมิภาค ต.บ้านแยง ได้มาตรวจเช็ดเมื่อ 2-3 วันก่อน ไม่พบปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้น ชณะที่ทางโรงเรียนได้ทำตามกติการการเฝ้าระวังทุกอย่าง จึงไม่น่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

"ยังประเมินค่าเสียหายไม่ได้"


ด้านนางฐิติรัชต์ จันทร์จ้อย ผอ.สพท.พิษณุโลก เขต 3 เปิดเผยว่า ยังประเมินค่าเสียหายของเพลิงไหม้ครั้งนี้ไม่ได้ แต่พบว่ามีสื่อการเรียนการสอนเสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะจักรยานยืมเรียนที่นักเรียนเพิ่งส่งคืนโรงเรียนจำนวน 9 คันก็ถูกไฟไหม้หมด ขณะที่การสร้างอาคารเรียนหลังใหม่นั้นไม่น่ามีปัญหา เพราะ สพฐ. พร้อมสนับสนุนงบประมาณ

ขอให้ผู้อำนวยการไปเขียนโครงการเข้ามา ขณะที่การเฝ้าระวังสถานการณ์ตามโรงเรียนต่าง ๆ นั้น โรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษาเขตที่ 3 มีการเฝ้าระวังมาตลอด มีการวางแผนร่วมกับฝ่ายปกครอง ฝ่ายท้องถิ่นมาตลอด สถานที่ราชการโดยเฉพาะโรงเรียนมีเวรยามตลอด แต่ครั้งนี้ไม่สามารถป้องกันได้ เพราะเป็นอาคารไม้หลังเก่าที่เป็นเชื้อเพลิงได้อย่างรวดเร็ว

รายงานแจ้งว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ฝ่ายทหารในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 ได้ติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด โดยส่งกำลังทหารเข้ามาพื้นที่ทันทีหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้ 1 ชั่วโมง และยังเกาะติดหาข่าวสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นห่วงการสร้างสถานการณ์การเมือง โดยรายงานสถานการณ์ให้พลโทจิรเดช คชรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 ทราบอย่างต่อเนื่อง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์