นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและวิเคราะห์คดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ตามที่ ดีเอสไอ ได้ออกหมายเรียก นายสุริ สุขพล อายุ 31 ปี น้องชายของอดีตพระเณรคำ กรณีที่ออกมายอมรับว่า เป็นพ่อของเด็กชายอายุ 11 ขวบ แทนพี่ชาย ให้มาพบเพื่อให้ปากคำ ในวันที่ 31 ก.ค.นี้นั้น คาดว่า น้องชายเณรคำ จะไม่มาพบ พงส. แน่ เพราะอาจถูกแจ้งความเรื่องให้การเท็จ และยุ่งเหยิงคดีได้ จึงคาดว่าน่าจะหลบหนีไปอีกคนหนึ่ง ซึ่งดีเอสไอไม่กังวล เพราะมีขั้นตอนรองรับ คือ หากเบี้ยวครบ 2 ครั้ง ก็สามารถออกหมายจับ ในข้อหาให้การเท็จหรือยุ่งเหยิงคดีได้ และในวันพรุ่งนี้ พงส. ที่ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.ศรีสะเกษ จะประชุมสรุปงานอีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้ ประเด็นใหม่เพิ่มเติม คือ ผลตรวจโลหะที่ใช้สร้างพระแก้วมรกตองค์ใหญ่ ที่สำนักสงฆ์ขันติธรรม ที่ทางอดีตพระเณรคำ โฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นหยกแท้นั้น ตรวจสอบจาก ม.อุบลราชธานี ออกมาแล้วว่า ไม่ใช่หยกแท้ แต่เป็นเพียงหินอ่อนเท่านั้น จึงเข้าข่ายหลอกหลวงเพิ่มเติมอีกกระทงหนึ่ง
ส่วนหญิงสาวที่ถูกน้องเณรคำออกมาระบุว่าคือภรรยาของตัวเองนั้น
พ.ต.อ.เอกชัย ปรัชญาวุฒิรัตน์ ผกก.สภ.น้ำเกลี้ยง กล่าวว่า ยังไม่ได้เข้าแจ้งความหมิ่นประมาทแต่อย่างใด คาดว่าจะมาเร็วๆ นี้ โดยเมื่อเข้าแจ้งความ ก็จะโอนให้ดีเอสไอไป