หลังจากชุดร่วมปฏิบัติการพิเศษกองทัพภาคที่ 4 ได้เข้าปิดล้อมบริเวณเทือกเขาตะเว เขตรอยต่อ บ.โต๊ะอีแต–บ.โต๊ะเล็ง ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
จนเกิดการยิงปะทะก่อนที่กลุ่มกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเคจะล่าถอยหนีเข้าไปในป่าและฝ่ายเจ้าหน้าที่สามารถยึดค่ายฝึกและใช้เป็นที่พักชั่วคราวกลุ่มกองกำลังติดอาวุธอาร์เคดคได้เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม แหล่งข่าวร่วมชุดปฏิบัติการฯ
เผยภาพถ่ายที่เป็นหลักฐานชี้ให้เห็นถึงฐานที่มั่นของกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่ยังคงอาศัยเทือกเขาสำคัญๆ ที่มีแนวสันเขาติดต่อกันในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นที่เคลื่อนไหวและใช้เป็นแหล่งอาศัยกบดาน ตลอดจนเป็นสถานที่ใช้ฝึกฝนทางยุทธวิธีรบในรูปแบบต่างๆ ให้กับบรรดากลุ่มแนวร่วม หรือกลุ่มนักรบรุ่นใหม่ จนไปถึงที่ฝึกทบทวนให้กับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเคด้วย
ภาพดังกล่าวในขั้นต้นมีจำนวน 10 รูป ยังเป็นหลักฐานยืนยันให้เห็นการเข้าตรวจยึดสิ่งของหลักฐานต่างๆ
ประกอบไปด้วยกระท่อมที่พัก จำนวน 6 หลัง ค้นภายในมีกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 53 นัด ชุดลายพรางทหาร จำนวน 7 ชุด ถังแก๊สขนาด 15 กิโลกรัมจำนวน 2 ลูก ยาเวชภัณฑ์ทางการแพทย์และอาหารแห้งจำนวนหนึ่ง ที่ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกระท่อมแต่ละหลัง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐานสำคัญ คือลานที่ใช้สำหรับฝึกการต่อสู้ หรือลานฝึกรบในรูปแบบกองโจร
แหล่งข่าวร่วมชุดปฏิบัติการฯ ยังเปิดเผยอีกว่า สิ่งของหลักฐานที่ยึดได้จากค่ายฝึกดังกล่าว
เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจเก็บดีเอ็นเอและกำลังทยอยขนย้ายหลักฐานหลายอย่างจากเทือกเขา นำไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดด้วยเครื่องมือพิเศษอีกครั้ง จากนั้นก็จะนำไปตรวจเทียบเคียงกับผลดีเอ็นเอ ที่สามารถตรวจเก็บมาได้จากที่เกิดเหตุต่างๆ ก่อนหน้านี้ ซึ่งจะช่วยให้ง่ายต่อการเชื่อมโยงถึงกลุ่ม โดยเฉพาะในส่วนของนายอับดุลฮากิม ปูตะ นายต่วนแซะ ต่วนกือจิ นายซูฮา อาบู นายอุสนี บาโด นายกูลิง ลือบา และนายโมหะหมัดซอบือรี กือสง ทั้งหมดมีหมายจับคดีความมั่นคงและผลตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งถูกระบุว่ามารวมตัวอาศัยวางแผนก่อเหตุรุนแรงอยู่ในค่ายที่พักชั่วคราวแห่งนี้ ตลอดจนคอยทำหน้าที่ในการฝึกแนวร่วมรุนใหม่ ซึ่งต้องรอผลการตรวจดีเอ็นเอจากชุดตรวจพิสูจน์หลักฐานว่า ตรงกันกับคนร้ายรายใดบ้างหรือไม่
ด้านศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 เผยผลตรวจสอบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 8 ปลอก
ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุยิงนายธงชัย พรหมจันทร์ และ น.ส.นิตยา ฝ่ายนารีผล 2 สามีภรรยา ซึ่งเสียชีวิตอยู่ในท่านั่งคุกเข่าขอชีวิต เหตุเกิดในพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยผลการตรวจพบว่า ปลอกกระสุนปืนดังกล่าวยิงจากปืนออโต 2 กระบอก มีประวัติเคยก่อเหตุทั้ง 2 กระบอก โดยกระบอกแรกเคยใช้ก่อเหตุยิงครูคมสัน โฉมยงค์ โรงเรียนบ้านบองอ อ.ระแงะ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2555 กระบอกที่ 2 เคยใช้ก่อเหตุยิงครูฉัตรสุดา นิลสุวรรณ โรงเรียนบ้านตาโงะ อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมาด้วย