เมื่อ 11 ก.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า นายสมจิตร เชื้อเอี่ยมพันธ์ อายุ 50 ปี
พร้อมด้วย น.ส.ชลธิชา เชื้อเอี่ยมพันธ์ อายุ 24 ปี พิธีกรรายการ “ลูกทุ่งประเทศไทย” ออกอากาศทางช่อง 4 เคเบิ้ลดาวเทียม เข้าร้องกับผู้สื่อข่าวว่าถูกนายยอดอยุทธ์ ทรงกลด อายุ 32 ปี หรือชื่อในแวดวงตลกว่า “จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม” ชิงเอาโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อแอปเปิ้ล รุ่นไอโฟน 5 ของน.ส.ชลธิชา ไปเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.อุทิศ อาสานอก ร้อยเวรสภ.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเพื่อดำเนินคดีกับดาวตลก ในข้อชิงทรัพย์
น.ส.ชลธิชา เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า รู้จักและคบหากับนายยอดอยุทธ์ หรือ จั๊กกะบุ๋ม มาได้ประมาณ 4 เดือนแล้ว
แต่ต่อมาทราบว่านายจั๊กกะบุ๋ม มีเมียและลูกแล้ว ตนจึงได้พยายามตีตัวออกห่าง ไม่อยากให้เขามีปัญหากับครอบครัว แต่นายจั๊กกะบุ๋มก็ไม่ยอมเลิกรา พยายามตามตื้อตลอด นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมหึงหวง เวลาตนจะพูดคุยกับใครก็ไม่ได้ จะอาละวาดด่าทอตนอย่างเสียหาย ก่อนเกิดเหตุหลังจากที่ตนกลับจากธุระและกลับมาที่พัก ก็พบว่านายจั๊กกะบุ๋มอยู่ภายในห้องพักในคอนโดซิตี้โฮม ย่านรัตนาธิเบศร์ โดยขออนุญาตพ่อบอกว่าจะพาไปที่ร้านโรงเบียร์ฮอลแลนด์ ถ.ราชพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นที่นายจั๊กกะบุ๋ม ร้องเพลงอยู่เป็นประจำ
เมื่อมาถึงที่ร้าน ระหว่างนั่งรถมากับตลกดัง ตนสังเกตุเห็นโทรศัพท์มือถือของตนอยู่ที่นายจั๊กกะบุ๋ม
ตนจึงได้หยิบโทรศัพท์เครื่องดังกล่าว แต่นายจั๊กกะบุ๋มได้กระชากแขนตนพร้อมพูดว่า “เอาโทรศัพท์มา” หลังนายจั๊กกะบุ๋มได้โทรศัพท์ไปแล้วแต่ไม่สามารถเปิดได้เนื่องจากตนได้ตั้งล๊อคหน้าจอไว้ นายจั๊กกะบุ๋มจึงหันมาบอกว่า “มึงบอกรหัสกูมา ถ้ามึงไม่บอกกูจะขว้างโทรศัพท์มึงทิ้ง” ตนจึงได้บอกรหัสโทรศัพท์ไป นายจั๊กกะบุ๋มจึงได้เปิดดูข้อมูลและเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกงก่อนที่จะขึ้นไปร้องเพลง
น.ส.ชลธิชากล่าวต่อว่า เมื่อนายจั๊กกะบุ๋มร้องเพลงเสร็จก็ได้ชวนตนไปที่ร้านไม้เอก เลียบด่วนรามอินทรา
เพื่อไปดูคอนเสิร์ตของเท่ง เถิดเทิง เมื่อไปถึงที่ห้องพักนักร้องด้านหลังเวทีในร้านไม้เอก นายจั๊กกะบุ๋ม ได้ด่าตนเองด้วยภาษาที่หยาบคาย จนตนทนไม่ไหวจึงเอ่ยปากขอกลับบ้านก่อน แต่นายจั๊กกะบุ๋ม ได้ให้เพื่อนเดินออกมาตามว่าเดี๋ยวกลับพร้อมกัน ตนรออยู่นานนายจั๊กกะบุ๋มก็ไม่ออกมาจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในร้าน เมื่อพบนายจั๊กกะบุ๋มตนจึงได้เอ่ยปากทวงโทรศัพท์ ซึ่งนายจั๊กกะบุ๋มบอกว่าเดี๋ยวค่อยคุยกัน และเมื่ออยู่บนรถขณะเดินทางกลับนายจั๊กกะบุ๋ม ได้พูดจาข่มขู่และเยาะเย้ยตนข่มขู่บอกว่า “กูจะไม่ให้มึงมีงานทำ”
หลังจากนั้นได้ให้เพื่อนที่เป็นคนขับรถจอดรถข้างทางก่อนที่จะลงจากรถไป ตนจึงลงจากรถเพื่อทวงโทรศัพท์คืนจากนายจั๊กกะบุ๋ม
ปรากฏว่านายจั๊กกะบุ๋มได้วิ่งข้ามถนนไปขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไปพร้อมโทรศัพท์ของตน หลังจากนั้นไม่นานนายจั๊กกะบุ๋มได้โทรศัพท์เข้ามาที่มือถือของเพื่อนที่ขับรถโดยบอกว่าไม่ต้องไปส่งตนปล่อยให้กลับเอง แต่เพื่อนของนายจั๊กกะบุ๋มโกหกว่าไม่ได้ไปส่งแต่แท้จริงเพื่อนของเขามาส่งที่คอนโด หลังจากที่ตนถึงห้องพักและกำลังนั่งคุยอยู่กับพ่อ นายจั๊กกะบุ๋มได้โทรศัพท์เข้ามาที่มือถือของพ่อพร้อมถามว่า “ตนเองกลับมาถึงที่ห้องหรือยัง”
ทางพ่อของตนก็บอกว่ายังมาไม่ถึงพร้อม ทั้งถามนายจั๊กกะบุ๋มว่า “แล้วทำไมไม่มาส่งน้อง”
นายจั๊กกะบุ๋มกลับตอบมาว่า “ไม่รู้มันไปดอกทองที่ไหน ไปนอนกับใครก็ไม่รู้” ตนจึงได้ปรึกษากับพ่อและพากันไปแจ้งความ ที่สภ.คลองข่อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด หลังแจ้งความ นายจั๊กกะบุ๋ม ได้โทรศัพท์เข้ามาที่มือถือของตน และบอกว่าได้เอาโทรศัพท์มาคืนให้แล้วโดยฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ของคอนโด ตนจึงได้เดินลงไปสอบถามพนักงานก็พบว่าเป็นโทรศัพท์ของตนจริง
สำหรับน.ส.ชลธิชา เชื้อเอี่ยมพันธ์ นอกจากจะเป็นพิธีกรรายการเพลง “ลูกทุ่งประเทศไทย” และกำลังเตรียมตัวออกอัลบั้มเพลงโดยร้องร่วมกับนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง สันติ ดวงสว่าง เป็นแนวเพลงลูกทุ่ง ซึ่งขณะนี้ได้บันทึกเสียงไปแล้วแต่ยังไม่เสร็จสิ้น คาดว่าจะวางแผงปลายปีนี้
พิธีกรสาวแจ้งความ ตลกดัง จั๊กกะบุ๋ม ชิงโทรศัพท์
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม พิธีกรสาวแจ้งความ ตลกดัง จั๊กกะบุ๋ม ชิงโทรศัพท์