สืบเมฆารวมมือมีดรับจ้างแทงผู้บริหารจิวเวอร์รี่

สืบเมฆารวมมือมีดรับจ้างแทง ผู้บริหารบริษัทจิวเวอร์รี่ ปางตาย เผมปมหตุขัดแย้งภายใมบริษัท หลังเหยื่อจับได้ว่า เพื่อนรวมงานแอบยักยอกเงินบริษัท 1 ล้าน เลยเกิดความกลัว จ้างมือสังหารหวิงปลิดชีพ

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 10 ก.ค. ที่สน.ทุ่งมหาเมฆ พ.ต.ท.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ รองผกก.สส.สน.ทุ่งมหาเมฆ

พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นาย บี นามสมมุติ อายุ 18 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 436/2556 ลงวันที่ 1 ก.ค. 56 ข้อหา “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน”พร้อมของกลาง รองเท้าผ้าใบคอนเวิด สีดำ-ขาว 1 คู่ บัตรเอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ 1 ใบ โทรศัพท์มือถือซัมซุง 1 เครื่อง โดยจับกุมตัวได้ที่ หน้าบ้านพักเลขที่ 202/10 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. ทั้งนี้ทางผู้เสียหายที่ยังอยู่ในอาการหวาดผวา ได้เดินทางมาชี้ตัวที่สน.อีกด้วย

พ.ต.ท.ศยาม เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุ

จาก น.ส.ศิริภรณ์ มีสุวรรณ์ อายุ 47 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัท บิวตี้ คัท ไดมอนด์ จำกัด ถูกคนร้าย2 คน รุมแทงกว่า 20 แผล จนได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องเข้ารักษาตัวที่รพ. ที่ห้องสำนักงาน ชั้น 4 บริษัท บิวตี้ คัท ไดมอนด์ จำกัด(ประกอบกิจการซื้อขาย จิวเวอร์รี่) เลขที่ 67 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงสีลม เขตบางรัก กทม.เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.20 น. วันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา จากนั้นทางจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมตรวจดูกล้องวงจรปิด พบว่ามีชายฉกรรจ์ 2 คนแอบลักลอบเข้ามาในตัวอาคารก่อนเข้าไปหลบซ่อนตัวภายในห้องน้ำของชั้นดังกล่าว แล้วรอจังหวะที่ผู้เสียหายเดินเข้าห้องน้ำ ก่อนลงมือกระหน่ำแทงและหลบหนีไป นอกจากนี้ยังพบพิรุธว่ามีพนักงานภายในบริษัท 1 ราย รู้เห็นเป็นใจ โดยจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดพบว่า คนร้ายมีการรับสายโทรศัพท์พร้อมกับทางพนักงานรายหนึ่งเสมือนมีการพูดคุยโต้ตอบกัน จากนั้นทางพนักงานรายนี้เดินไปโยนกุญแจจากตัวอาคาร เพื่อเปิดทางให้คนร้ายเข้ามาได้อีกด้วย

พ.ต.ท.ศยาม  เผยต่อว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำพนักงานภายในบริษัท

จนทราบว่ามีพนักงานรายหนึ่งมีรูปพรรณตรงตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่มีพฤติกรรมช่วยเหลือคนร้าย ทราบชื่อ น.ส.นุชจรี แหยมประสงค์ อายุ 37 ปี พนักงานฝ่ายบัญชีบริษัทดังกล่าว ซึ่งเมื่้อเดือนที่ผ่านมาได้ยักยอกเงินของบริษัทไปจำนวนกว่า 1 ล้านบาท โดยที่ผู้เสียหายจับได้ว่าน.ส.นุชจรี ได้ยักยอกเงินไป ประกอบกับคนร้ายรายนี้มีหนี้สินติดการพนัน อีกทั้งเล่นหุ้นทองคำ  ภายหลังการสอบสวนน.ส.นุชจรีจำนนด้วยหลักฐาน ให้การภายหลังว่าตนได้ว่าจ้างนาย บี และเพื่อนอีก 1 คน โดยรู้จักกันผ่านทางเว็ปไซด์เฟซบุ๊คโดยบังเอิญ ให้มาก่อเหตุเพื่อฆ่าปิดปาก จากนั้นเจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนขยายผลจนทราบว่านาย บี พักอาศัยอยู่ย่าน ร่มเกล้า จึงได้ประสานขอข้อมูลทาง สน.ร่มเกล้าจนกระทั่งจับกุมตัวได้ดังกล่าวเมื่อช่วง 12.00 น. วันนี้ (10 ก.ค.) จากนั้นนำตัวมาสอบสวนที่สน.ทุ่งมหาเมฆ ส่วนเพื่อนของนายบีที่ร่วมกันก่อเหตุไหวตัวทันหลบหนีไปได้ก่อน

สอบสวน นาย บี ยอมรับสารภาพ ว่าทำงานเป็นช่างซ่อมรถอยู่ที่ย่านร่มเกล้า และมีหนี้สินเนื่องจากไปซื้อรถจยย.มา 1 คัน ในราคา 50,000 บาท
 
แล้วมีกำหนดที่จะต้องจ่ายเงินหากไม่จ่ายจะถูกเจ้าหนี้ตามทำร้าย จึงได้ประกาศหางานทำบนหน้าเพจเฟซบุ๊คตัวเองว่า”เดือดร้อนเงิน ต้องการเงินใช้ด่วน” โดยที่น.ส.นุชจรีได้เข้ามาเข้าร่วมเป็นเพื่อนในเว็ปไซด์เฟซบุ๊ค ต่อมาได้มีการพูดคุยกัน ทางน.ส.นุชจรีได้เสนอเงินกับตนในวงเงิน 70,000 บาทให้ไปฆ่า ผู้เสียหาย ซึ่งจะโอนเงินล่วงหน้าก่อน 30,000 บาท และอีก 40,000 จะโอนให้ภายหลังจากเสร็จงาน จึงตกลงรับข้อเสนอ 

ด้านน.ส.ศิริภรณ์ เปิดเผยในอาการหวาดกลัวว่า ในวันที่เกิดเหตุกำลังเข้าไปในห้องน้ำ ต้องถึงกับช็อคเมื่อพบชายฉกรรจ์ 2 คน หลบซ่อนอยู่
 
ก่อนจะเข้ามากระหน่ำแทงด้วยอาวุธมีดเข้าตามร่างกายอย่างไม่ยั้งมือ จนมีเลือดไหลออกมากนองเต็มพื้นห้องน้ำ จึงร้องขอชีวิตคนร้ายทั้ง 2 คน จึงรีบวิ่งหลบหนีออกไป จากนั้นออกมาขอความช่วยเหลือ ก่อนมีคนนำตัวส่งรพ.รักษาตัว ซึ่งขณะนี้ยังรู้สึกหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ ส่วนบาดแผล บริเวณลำตัว และแขน รวม 20 แผลนั้น ก็เริ่มหายแล้วจึงเดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหาในวันนี้ได้ ส่วนเรื่องของ น.ส.นุชจรี ตนไม่ขอพูดถึงแล้วกัน เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ต้องหาที่หลบหนีไปได้ทางเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป