เมื่อ 9 ก.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พ.ต.อ.ไพศาล นันตา ผกก.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย
พ.ต.ท.ประทวน อาจกล้า สารวัตรเวร นำเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจ ควบคุมตัวนายคำปน สิงห์ชู อายุ 53 ปีอาชีพรับจ้างทั่วไป บ้านเลขที่ 36 บ้านโป่งหนอง ม.3 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า ไปค้นหาหลักฐานกรณีนายคำปน สารภาพว่าได้ฆ่าลูกชายของตัวเองชื่อว่านายสุรพงษ์ สิงห์ชู อายุ 28 ปีอยู่บ้านหลังเดียวกันจนเสียชีวิตเหตุเกิดหลังจากนางเฉลียว สิงห์ชู อายุ 50 ปีภรรยาของนายคำปนและเป็นมารดาของนายสุรพงษ์ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อนายสุรพงษ์ได้หายตัวออกจากบ้านไปในช่วงต้นเดือน มิ.ย.
ขณะที่นางเฉลียวเดินทางทำไปธุระที่ต่างจังหวัด เมื่อกลับถึงบ้านไม่พบลูกชายจึงไปแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่าลูกชายได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แต่ต่อมาวันที่ 5 มิ.ย.นายคำปนผู้เป็นบิดาก็ไปถอนแจ้งความโดยอ้างว่าสามารถติดต่อกับลูกชายได้แล้วโดยทราบว่าอยู่ต่างจังหวัด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพบพิรุธจึงเค้นสอบถามจากนายคำปนจนเจ้าตัวยอมรับสารภาพหลังจากก่อเหตุไปได้นาน 1 เดือนกว่า ว่าเป็นผู้ลงมือฆ่านายสุรพงษ์เองและได้นำศพไปเผาและฝังที่ป่าท้ายหมู่บ้านห่างออกไปประมาณ 5 กิโลเมตร
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้นายคำปนพาไปดูสถานที่ที่ใช้เผาและฝังศพลูกชายพบเป็นป่าไผ่ห่างไกลชุมชน
และมีร่องรอยการเผาเป็นเถ้าถ่านบนพื้นโดยมีกระดูกชิ้นเล็กชิ้นน้อยอยุ่บนพื้นแต่นายคำปนให้การเพิ่มเติมว่ากระดูกชิ้นโตเป็นศีรษะ แขน ขา สะโพก ฯลฯ ได้ถูกฝังอยู่ไว้ใต้ดินลึกประมาณ 1 ฟุตในบริเวณใกล้เคียงกันเพราะไม่สามารถเผาให้ไหม้ได้จึงนำไปฝังเพราะเกรงจะมีคนไปพบเห็น เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงทำการขุดก็พบชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์มากกว่า 20 ชิ้นจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และแจ้งข้อหานายคำปนคดีฆ่าผู้อื่นลอบฝัง ซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตาย
ซึ่งนายคำปนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาและให้การว่าสาเหตุที่ฆ่าลูกชายเพราะลูกชายติดยาเสพติดและมักทำร้ายตนอยู่เป็นประจำ
กระทั่งก่อนเกิดเหตุภรรยาของตนไม่อยู่บ้านตนก็ได้ตักเตือนลูกชายให้เลิกยาเสพติดเสีย แต่นายสุรพงษ์กลับโต้เถียงตนและยังใช้เข็มขัดตีตนทำให้ตนผลักนายสุรพงษ์ออกไปให้พ้นตัวและศีรษะไปกระเทือกกับเสาคอนกรีตของบ้านอย่างแรงจนล้มแน่นิ่ง เมื่อไปดูก็พบว่าเสียชีวิตแล้วจึงเกรงกลัวความผิดและนำศพไปเผาในป่าละเมาะก่อนจะฝังส่วนกระดูกที่เหลือต่อไป ทั้งนี้นายคำปนยังยืนยันว่ารักลูกและอยากให้เลิกยาเสพติด แต่เมื่อพลั้งมือทำให้เสียชีวิตก็ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงลงมือเผาและฝังดังกล่าวเพราะเกรงกลัวความผิด
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวว่าจะได้สอบสวนขยายผลต่อไปอีกว่าคำให้การของผู้ต้องหาเท็จจริงหรือไม่
เพราะให้การเพียงว่าผลักผู้ตายจนศีรษะชนกับเสาบ้านเสียชีวิต แต่เจ้าหน้าที่สงสัยว่าอาจจะมีการทำร้ายกันมากกว่านี้มาก่อนหน้านี้หรือไม่ ส่วนการดำเนินการด้านอื่นๆ ได้มีการสืบสวนและตรวจสอบคราบเลือดที่เหลืออยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ หลักฐานที่เผาและฝังศพเพื่อส่งไปตรวจเอกลักษณ์บุคคลตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
พ่อฆ่าลูก เผา-ฝังอำพรางศพ อ้างลูกชายติดยา ทะเลาะกันจนพลั้งมือ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม พ่อฆ่าลูก เผา-ฝังอำพรางศพ อ้างลูกชายติดยา ทะเลาะกันจนพลั้งมือ