"ประธานองค์กรเครือข่ายบ้านวิมุตติธรรม" ศิษย์ "หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก" แถลงข่าวชี้แจง 11 ข้อสงสัย นำข้อมูลทั้งหมดที่ปรากฏนี้ไปมอบให้กรรมาธิการ การศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา
วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่สำนักสงฆ์ วัดป่าขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ
ดร.สุขุม วงประสิทธิ ประธานองค์กรเครือข่ายบ้านวิมุตติธรรม ศิษย์หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ได้ออกมาแถลงข่าวชี้แจงข้อสงสัยกรณีข่าวหลวงปู่เณรคำ โดย ดร.สุขุม กล่าวว่า ตามที่มีข่าวหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ปรากฏตามสื่อ สร้างความสับสนในหมู่พุทธศาสนิกชน และพระพุทธศาสนา นั้น ขอชี้แจงข้อสงสัยในกรณีที่เกิดขึ้นกับหลวงปู่เณรคำ 11 ข้อ ดังนี้ คือ
1.ภาพที่ปรากฏขึ้นในอินเตอร์เน็ต เป็นภาพตัดต่อให้คล้ายกับภาพอิริยาบถหนึ่งของหลวงปู่เณรคำ เป็นการจงใจใช้ภาพเอียงข้างในลักษณะเดียวกัน ซึ่งเป็นภาพเก่าในอดีต
2.ภาพการขึ้นเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวตามที่กล่าวอ้าง เป็นเครื่องบินเช่าเหมาลำของบริษัทเอ็มเจ็ท
3.ภาพการขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เป็นเครื่องเช่าเหมาลำของบริษัทบางกอกเฮลิคอปเตอร์ ที่กัปตันขอทำสติ๊กเกอร์ไปติดเพื่อเป็นมงคล
4.กระเป๋าหลุยส์ และเครื่องใช้อื่นๆ มีผู้ถวายให้ และไม่ได้ถือใช้เป็นอาจิณกระทั่งไม่เหมาะสมตามที่กล่าวหา ซึ่งมีพระชั้นผู้ใหญ่ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อแล้วว่าไม่ผิด
5.เรื่องที่ดินวัด นางทองมี วุฒิยาสาร เจ้าของที่ดินผู้บริจาคเริ่มต้น ได้โอนให้ นางลอน มนัส เป็นผู้ดูแลในโฉนดบางฉบับ
6.การก่อตั้งวัด ได้มีการยื่นเรื่องจัดตั้งวัดแล้ว ยังไม่สำเร็จในระยะเริ่มแรก แสดงถึงความพยายามที่จะมีการก่อตั้งวัดให้เกิดขึ้น แต่ก็เกิดอุปสรรคในหลายๆเรื่อง จากกลุ่มลูกศิษย์ ทำให้เวลาในการก่อตั้งในใบอนุญาตสะดุดหยุดลง จึงต้องมีการขออนุญาตใหม่
7.การสร้างพระแก้วมรกตจำลอง ที่ปรากฏเป็นข่าวว่าไม่ได้แจ้งกรมศิลปากรนั้น เป็นเพราะความไม่รอบรู้ของคณะกรรมการวัดชุดเก่าที่ไม่พยายามดูแลให้ครอบคลุม แต่เรื่องนี้สามารถแก้ไขโดยขออนุญาตอย่างเป็นทางการต่อไปได้ และไม่มีเกณฑ์ใดกำหนดว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด
8.กรณีมีข่าวการสร้างบ้านให้ฆราวาส ในราคา 2 ล้านบาท นั้น จากการติดตามข้อมูลภาคสนามขององค์กรเครือข่ายบ้านวิมุตติธรรม ปรากฎจัดแล้วเจนว่าไม่ใช่หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก อย่างแน่นอน
9.กรณี นางลอน มนัส ถูกข่มขู่ จากการลงพื้นที่พร้อมสื่อมวลชนพบความจริงว่า เป็นเรื่องบอกเล่าจากปากต่อปากเพียงเท่านั้น ไม่มีเรื่องการถูกข่มขู่
10.กรณี นางลอน มนัส ออกปากไล่หลวงปู่เณรคำ ออกจากวัด ไม่มีมูลความจริงแต่ประการใดทั้งสิ้น ตามที่นางลอนยืนยันต่อหน้าสื่อมวลชนทุกแขนง
และ 11.กรณีเรื่องเงินของวัดว่าดำเนินการไปในลักษณะใดนั้น เป็นเรื่องที่กรรมการวัดชุดเก่าที่ถูกปลดไปแล้วไม่สามารถชี้แจงได้
ซึ่งจะนำข้อมูลทั้งหมดที่ปรากฏนี้ไปมอบให้กรรมาธิการ การศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ต่อไป ทั้งนี้การจัดงานมหาพิธีห่มผ้าฤดูฝนพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก ในระหว่างวันที่ 27-30 มิ.ย. 56 จะต้องจัดงานต่อไป
อย่างก็ตามมีรายงานว่า หลวงพ่อปานขาว ซึ่งเดินทางไปกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พร้อมหลวงปู่เณรคำ
ได้เดินทางกลับมาจากฝรั่งเศสและเดินทางมาร่วมแถลงข่าในครั้งนี้ด้วยทันที โดยระบุว่า หลวงปู่เณรคำ ได้มอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นประธานในพิธีห่มผ้าฤดูฝนพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ๋ที่สุดในโลกแทน เนื่องจากไม่สะดวกในการเดินทางกลับประเทศไทยในช่วงนี้
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ได้มีตัวแทนคณะกรรมการวัดชุดใหม่ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ให้ดำเนินคดีกับกรรมการวัดชุดเก่าในข้อหายักยอกทรัพย์สิน โดยปลอมแปลงลายมือหลวงปู่เณรคำเบิกเงินสดและเอารถยนต์รวมมูลค่าหลายสิบล้านไปอีกด้วย.