ทันที ที่มีข่าวว่า นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี
นำตัว น.ส.นัฏฐิกานต์ อัศวมงคลพันธุ์ อายุ 21 ปี นางแบบสาวนิตยสารชื่อดัง เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผกก.สน.พญาไท กรณีถูก นายบุญสิทธิ์ ธรรมโรจน์พินิจ หรือ ป้อ บุตรชายของ นายไพจิตร ธรรมโรจน์พินิจ "ปอ ประตูน้ำ" ที่เคยคบหาเป็นแฟนกัน มาร่วม 2 ปีเศษ ติดตามตัวขู่จะฆ่าให้ตาย หลังขอแยกทาง เพราะทนถูกทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง และกักขังต่อไปไม่ไหว
โดยผู้เสียหาย อ้างว่า นายป้อ มีนิสัยและพฤติกรรมหงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน ชอบทำร้ายตบตี อย่างรุนแรง จนถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล ล่าสุด ข่มขู่จะฆ่าให้ตาย ถ้าหากเลิกรา พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมาตนพยายามหลบหนีหลายครั้ง แต่เมื่อถูกจับได้ ก็ถูกซ้อมจนน่วม
ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน ชื่อเสียงของ ป้อ ประตูน้ำ เป็นข่าวใหญ่โต ในวัยเบญจเพศ
เมื่อมีข่าวเข้าพิธีวิวาห์กับ นักร้องนักแสดงชื่อดัง นุ้ก-สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา โดยมีสินสอดทั้ง เงินสด-เครื่องเพชร-ทองคำ-ที่ดิน รวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ท่ามกลางสักขีพยานมากมาย ในโรงแรมหรูกลางกรุงเทพมหานคร
ย้อนคดี ป้อ ประตูน้ำ หึง-หวง-โหด
แต่เวลาผ่านไป ทั้งสอง ตกเป็นข่าวดังอีกครั้ง เมื่อฝ่ายหญิง ประกาศขอแยกทาง
หลังจากแต่งงานอยู่กินกันมา 5 ปี และมีพยานรัก 2 คน โดยเหตุผลของการแยกทาง ฝ่ายหญิงจะพูดอย่างไม่เต็มปากว่า ทนพฤติกรรมเจ้าชู้ของฝ่ายชาย และความเป็นนักเลงไม่ไหวก็ตาม แต่เรื่องราวกว่าจะจบ ถึงขั้นผู้ใหญ่ต้องมาช่วยไกล่เกลี่ยกันหลายรอบ ในที่สุด ทั้งสองได้หย่าขาดจากกัน โดยไม่มีการเรียกร้องสินสมรส ส่วนสิทธิในการดูแลลูกทั้ง 2 อยู่ในการดูแลของมารดา
เมื่อกลางเดือนกรกฎาคม 2551 นายป้อ ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่ง เมื่อ นายประวิทย์ บุญพรพิมล อายุ 32 ปี ได้เข้าแจ้งความที่ สน.วังทองหลาง ว่า ถูกนายป้อ พร้อมชายฉกรรจ์นับสิบคนทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ที่ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นกึ่งผับ "โยไฮ" ย่านทาวน์อินทาวน์ แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2551
นายประวิทย์ ให้รายละเอียดว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.
ตนและนายกฤษฎา หรือแจ็ค สีห์โสภณ หุ้นส่วนใหญ่ของร้านโยไฮ ทายาท นายประวิทย์ สีห์โสภณ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย กำลังนั่งคุยกันอยู่ที่ร้าน นายป้อ พร้อมชายฉกรรจ์บุกเข้าไปถามหานายแจ็ค และเมื่อพบตัว ทั้งหมด เข้ารุมเตะต่อย คว้าขวด คว้าเก้าอี้ไล่ทุบ ต้องวิ่งหนีเอาตัวรอด โดยตนโดนลูกหลงบาดเจ็บฟกช้ำดำเขียวเล็กน้อย ส่วนนายแจ็ค ถูกรุมกระทืบ ใบหน้าบวมปูด ตาปิด ข้อมือขวาหัก จึงเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่อให้ตำรวจติดตามตัวกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดี ส่วนตัว นายกฤษฎาเดินทางไปรักษาตัวที่ รพ.ปิยะเวท ย่านพระราม 9
ต่อมาเวลา 07.00 น. นายกฤษฎา พาร่างอันสะบักสะบอม เข้าแจ้งความที่ สน.วังทองหลาง
ให้การสอดคล้องกับ นายประวิทย์ อ้างว่าถูก นายป้อ กับพวก บุกทำร้าย ชกต่อยเตะและใช้เก้าอี้ใช้ขวดทุบตีจนบาดเจ็บ โดยยืนยันว่า ผู้ที่ลงมือคือ นายป้อ ลูกชายปอ ประตูน้ำ กับพวก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสาเหตุของการทำร้าย นายแจ็ค เชื่อว่า น่าจะเป็นเรื่องหึงหวง เนื่องจากตนเองเป็นเพื่อนสนิทกับ นุก-สุทธิดา ภรรยา นายป้อ ซึ่งเมื่อนุก มีปัญหา ก็มักจะโทรศัพท์ปรึกษาปัญหาต่างๆ รวมทั้งเรื่องในครอบครัว
สำหรับคดีดังกล่าว พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายป้อ เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น
เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสและเป็นอันตรายแก่กาย และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ กรณี นายบุญสิทธิ์ กับพวก ที่ยังหลบหนีประมาณ 20 คน ได้ร่วมกันทำร้ายร่างกาย นายกฤษฎา สีห์โสภณ บุตรชายอดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นโยไฮ ย่านวังทองหลาง และนายประวิตร บุญพรพิมล ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งทำลายทรัพย์สินภายในร้านอาหารได้รับความเสียหายเป็นเงินกว่า 30,000 บาท
หลังศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง
อีกทั้งการกระทำของจำเลยเป็นการก่อเหตุอุกฉกรรจ์ นำพวกไปรุมทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจึงมีเจตนา ไม่ใช่สาเหตุการหึงหวงอดีตภรรยา (นุก-สุทธิดา) ที่ไปรู้จักกับผู้เสียหาย พิพากษาจำคุก 1 ปี 12 เดือน แต่จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 12 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการอุทธรณ์
ส่วนกรณี ล่าสุด ต้องติดตามดูว่า นางแบบสาว เหยื่ออารมณ์ ของผู้ที่ผ่านคดีอย่างโชกโชน จะจบลงอย่างไร เคลียร์อย่างง่ายๆ หรือถึงขึ้นโรงขึ้นศาล
เชื่อว่า สังคมกำลังเฝ้ามองอย่างไม่กระพริบตา