เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ จ.ระนอง พ.จ.อ.โรม พลูศรี หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองระนอง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุลมพัดบ้านพังทั้งหลัง ที่บริเวณริมถนน ซ.9 เขตเทศบาลเมืองระนอง จึงนำเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ โดยจากการตรวจสอบในเบื้องต้น ทราบว่าเป็นบ้านขนาด 2 คูหา พังเสียหายทั้งหลัง ในสภาพเป็นบ้านเก่า ไม่มีคนอยู่อาศัย หรือสิ่งของมีค่าภายในบ้านได้รับความเสียหาย
จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงทราบว่า เมื่อช่วงเช้ามือที่ผ่านมา มีลมพัดแรงมาด้วยกัน 2 ช่วง
บ้านหลังที่เกิดเหตุพังทั้งหลัง เดิมเป็นบ้าน แต่ต่อมาเจ้าของบ้านได้ใช้เป็นที่จอดรถของบริษัทและรถส่วนตัว ปกติจะมาจอดทุกวัน แต่ทราบว่าในช่วง 1-2 วันเจ้าของไปทำธุระนอกพื้นที่ จึงไม่มีรถได้รับความเสียหาย เบื้องต้นได้ให้ทางเจ้าหน้าที่เทศบาล เคลื่อนย้ายสายไฟฟ้า ของบ้านที่อยู่ข้างเคียง ที่ถูกบ้านหลังเก่าทับสายไฟฟ้ออกมาเพื่อความปลอดภัยของเจ้าของบ้าน และผู้ที่สัญจรไปมา หลังจากนี้คงต้องรอดูเจ้าของบ้านว่าจะดำเนินการอย่างต่อไป
ขณะที่ จ.พังงา นายเจริญ ศิริรักษ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองพังงา
พร้อมด้วย นายจงรัก ผิวขำ ปลัดเทศบาลเมืองพังงาและเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่าง ฝ่ายป้องกันและบรรเทาเทศบาลเมืองพังงา ออกตรวจสอบความเสียหายจากเหตุพายุฝนถล่มตลาดพังงา บริเวณซอยพูลสินอุทิศ เขตเทศบาลเมืองพังงา พบบ้านได้รับความเสียหายรวม 12 หลัง ซึ่งได้มีบ้านที่ได้รับความเสียหายจากแรงลมที่พัดจนหลังคาบ้านหายไปทั้งหมดจำนวน 3 หลัง ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องนอนพร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์ได้ความความเสียหายทั้งหมด ส่วนที่เหลือกระเบื้องมุงหลังคาปลิวหายไปรวมแล้วกว่า 300 แผ่น โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนี้กำแพงปูนของบ้านเลขที่ 96/1 ถนนเพชรเกษมอยู่ติดร้านตัดผม”เสรีชน”
ได้พังถล่มลงใส่ห้องเช่า”รักษ์พังงา”ที่อยู่ติดกันทำให้หลังคาห้องเช่าทั้ง 6 ห้องทรุดลงมาเสียหายทั้งหมด เบื้องต้นทางเทศบาลเมืองพังงาได้ประกาศเป็นพื้นที่อันตราย ห้ามเข้าไป เพราะเกรงอันตรายจากกำแพงที่เก่า อาจจะถล่มลงมาเพิ่มเติมได้อีก
ด้านนายวิรัตน์ พรหมรักษา อายุ 38 ปี อาชีพค้าขายในตลาดสดพังงา กล่าวว่า
ขณะเกิดเหตุครอบครัวรวม 8 คน ได้นอนพักผ่อนกันอยู่ จู่ๆก็มีเสียงลมพัดแรงพร้อมกับเสียงต้นไม้ใหญ่หักโค่น จากนั้นเสียงลมดังอยู่ประมาณ 5 นาทีก็หอบเอาหลังคาหายไปบางส่วนก็ตกลงภายในบ้าน ต้องรีบคว้าเด็กๆวิ่งหลบแผ่นสังกะสีที่ตกลงมา ก่อนที่มีฝนเทกระหน่ำลงมาซ้ำ
ส่วนที่ จ.ตรัง ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้เกิดพายุหมันพัดบ้านชาวบ้านในหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 9 ตำบลควนปริง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง
จนได้รับความเสียหายแบบทั้งหลังและบางส่วน จำนวนกว่า 10 ครัวเรือน โดยต้นเทียม ต้นทุเรียนล้มทับบ้านเรือน ร้านค้า และเสาไฟฟ้าเสียหาย และบางส่วนลมได้กรรโชกหลังคาปลิว โชคดีไม่มีใครได้รับอันตราย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับนานหลายชั่วโมง สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน เบื้องต้นชาวบ้านเร่งทำการซ่อมแซม เนื่องจากเกรงว่าฝนจะตกหนัก ทำให้การซ่อมแซมเป็นไปได้ยาก ด้านเจ้าหน้าที่อบต.ควนปริง ได้เร่งทำสำรวจเตรียมรายงานอำเภอและจังหวัดเพื่อช่วยเหลือ
นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง จึงได้ลงนามออกประกาศเตือนภัยไปยังอำเภอ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง
ให้เตรียมพร้อมรับมือภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ โดยขอให้แจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยที่ราบเชิงเขา รวมทั้งทางน้ำไหลผ่าน ให้ระมัดระวังภัยน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และแผ่นดินเลื่อนไหล โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณน้ำตกต่างๆ ซึ่งได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำในน้ำตกต่างๆเพิ่มมากมากขึ้น มีสีขุ่นแดง และไหลแรง ขอให้ประชาชนอย่าเข้าใกล้น้ำตก รวมทั้งงดออกหาของป่าในระยะนี้ รวมถึงสั่งการให้แขวงการทางตรัง และทางหลวงชนบท เตรียมพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือเพื่อช่วยเหลือประชาชนกรณีเกิดต้นไม้ล้มทับเส้นทางจราจรและบ้านเรือนชาวบ้านเนื่องจากช่วงนี้เกิดลมพายุพัดในพื้นที่บ่อยครั้ง..