‘เบิ้ม’ มอบตัว ปัดรัดคอ ‘เอกยุทธ’ ดับ อ้าง ‘บอล’ คนขับรถลงมือ-ตื้บซ้ำ

วันที่ 14 มิ.ย. ตำรวจจะนำตัว 3 ผู้ต้องหาในคดีอุ้มฆ่า นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง
 
ไปขออำนาจศาลอาญา รัชดาฯ ฝากขังผลัดแรก หลังจากเมื่อวานนี้ ตำรวจนำตัวนายสันติภาพ เพ็งด้วง คนขับรถ ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ  ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน นายสุทธิพงศ์ พิมพิสาร หรือ เบิ้ม น่าจะมีความชัดเจนในวันนี้ หลังจากมีกระแสข่าวว่าได้ติดต่อขอเข้ามอบตัว
 
 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ธูปกระจ่างผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเปิดเผยว่า มารดาและแม่ยายของนายสุทธิพงษ์พิมพิสารหรือเบิ้มผู้ต้องหา ในคดีร่วมกันฆ่าชิงทรัพย์ นายเอกยุทธ ประสานขอเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนในเช้าวันนี้ แต่ยังไม่ระบุเวลาที่แน่นอน

 ด้าน พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน คดีอุ้มฆ่า นายเอกยุทธ

  เปิดเผยว่า ล่าสุดทราบว่า นายสุทธิพงศ์ อายุ 21 ปี ซึ่งถูกซัดทอดว่า เป็นคนลงมือใช้เชือกรองเท้าฆ่ารัดคอ นายเอกยุทธ จนเสียชีวิต และหลบหนี ได้ติดต่อขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยประสานขอเข้ามอบตัวผ่านทาง พล.ต.ท.คำรณวิทย์

 รายงานข่าวแจ้งว่าได้มีการควบคุมตัวนายสันติภาพ หรือบอล ไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลก่อน

เพื่อนำไปชี้ตัว นายเบิ้ม ผู้ต้องหาคนสำคัญที่ลงมือรัดคอสังหารนายเอกยุทธ ที่ติดต่อเข้ามอบตัวและถูกนำไปที่กองบัญชาการตำรวจนครลบาลเพื่อรอแถลงอย่างเป็นทางการ

  ล่าสุด นายสุทธิพงศ์ พิมพิสาร หรือ เบิ้ม เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ

หลังถูกออกหมายจับในคดีฆ่า นายเอกยุทธ ตามที่นายสันติภาพ เพ็งด้วง ให้การซัดทอดว่ารัดคอนายเอกยุทธ จนเสียชีวิต ซึ่งพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.เดินทางไปสอบปากคำ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เบื้องต้น นายเบิ้มอ้างว่านายสันติภาพที่เป็นคนลงมือฆ่านายเอกยุทธ จนเสียชีวิต โดยรัดคอ กระทืบซ้ำ ส่วนตัวเองแค่ช่วยขนศพ

 โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจนครบาลได้คุมตัว นายทิวากร เกื้อทอง และ นายชวลิต วุ่นชุ่ม ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังใน 6 ข้อหา
 
คือ ร่วมกันปล้นทรัพย์, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันกังขังหน่วงเหนี่ยว, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น , ร่วมกันมีและพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และร่วมกันซ่อนเร้นศพเพื่อปิดบังการตาย พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยให้เหตุผลว่าเป็นคดีที่ร้ายแรง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี

 เวลา 10.30 น. วันเดียวกัน ที่ใต้สะพานแพรกเมือง ริมคลองชะอวด อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผบช.น. พร้อม พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รองผบช.น. พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรขาวเขียว ผกก.สภ.หัวไทร พร้อมชุดประดาน้ำ 7 นาย ได้ลงพื้นที่ค้นหาสร้อยหนัก 3 บาท แหวนพระสมเด็จราคากว่า 30 ล้านบาท และนาฬิกาข้อมือยี่ห้อ  chopard เรือนละหลายล้านบาท หลังจากที่นายสันติภาพ หรือ บอล เพ็งด้วง ผู้ก่อเหตุลงมือฆ่านายเอกยุทธ จากนั้นได้นำศพมาฝังบริเวณกลางทุ่งนาใกล้เขาจิงโจ้ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

 มีรายงานระบุด้วยว่า จากนั้นได้เดินทางหลบหนี โดยไปพักที่โรงแรม โทนี่ วิลเลจ 1 คืน

จากนั้นนายสันติภาพ ได้ขับรถยนต์โฟล์คของผู้ตาย ไปส่งนายสุทธิพงศ์ หรือ เบิ้ม บริเวณแยกโพธิ์ทอง อ.ควนขนุน แล้วใช้เส้นทางผ่านอ.ระโนด จ.สงขลา มาถึงอ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช โดยขับลงมาใต้สะพานดังกล่าวมาโยนทิ้งไว้ใต้สะพาน ซึ่งได้โยนสร้อยพระก่อนแล้วจึงโยนนาฬิกาทิ้ง จากนั้นจึงใช้เส้นทางบนสะพานผ่านจ.นครศรีธรรมราชกลับเข้ากทม. ส่วนเสื้อผ้าของผู้ตายได้โยนทิ้งตั้งแต่หัวหินประจวบคีรีขันธ์ จนถึงที่ขุดหลุมฝังศพ