ปาหิน!นิสิตสาววิศวะกะโหลกยุบ

แก๊งปาหินอาละวาด ขว้างใส่กระจกรถหนุ่มวิศวะยานยนต์ถูกหน้านิสิตสาววิศวะ ม.เกษตร หน้าแตก กะโหลกยุบสาหัส ส่วนหนุ่มวิศวะยานยนต์คนขับถูกเศษกระจกทิ่มใส่ลูกตาเจ็บ

 เหตุแก๊งปาหินกลับมาอาละวาดอีกครั้งหนึ่งได้รับการเปิดเผยเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 11 มิถุนายน
 
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีนิสิตปี 1 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม ถูกมือมืดปาหินใส่กระจกรถได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สนามจันทร์ อ.เมืองนครปฐม จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบผู้ได้รับบาดเจ็บนอนนิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย ใบหน้าปวมปูด มีบาดแผลที่ศีรษะ แพทย์ต้องโกนผมออกเพื่อทำการผ่าตัด และสั่งห้ามลุกขึ้นนั่ง เพราะอาจกระทบกระเทือนบาดแผลและลูกนัยน์ตาที่ถูกกระแทก ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บคือ น.ส.เจนจิรา หรือน้องวิว ทองไชย อายุ 18 ปี นิสิตชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม เหตุเกิดบริเวณถนนกำแพงแสน - พนมทวน หมู่ 3 ต.หนองลาน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

นางประไพ ทองไชย อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/132 หมู่ 3 ต.คูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี มารดาของน้องวิว

เล่าทั้งน้ำตาว่า น้องวิวหรือน้องเจนนั้นเป็นบุตรของตนกับจ.ส.อ.นิวัฒน์ ทองไชย สังกัด นปค.13 หลังเรียนจบชั้น ม.6 จาก ร.ร.นารีวิทยา ราชบุรี ด้วยคะแนนกว่า 3.59 ก็ได้สอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเกษตร ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จึงเดินทางมาอยู่หอเพื่อเตรียมเข้าเรียนในวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา แต่ก็มาเกิดเหตุในวันที่ 9 มิถุนายน เสียก่อน 

"รู้สึกสงสารลูกสาวมาก  เพราะน้องจะนอนร้องเจ็บปวดทั้งคืน รู้สึกตัวขึ้นมาก็ถามแต่เรื่องมหาวิทยาลัย เนื่องจากลูกสาวเป็นเด็กเรียนเก่ง และตั้งใจเรียนมาก เกรงว่าตัวเองจะไปเรียนไม่ทันเพื่อน ซึ่งแม่ก็ได้แต่ปลอบใจว่าไม่เป็นอะไรมาก เดี๋ยวก็หายแล้วเพราะไม่อยากให้ลูกรู้ว่าเขาผ่าตัดออกมาและหน้าเขาเป็นแบบนี้ เกรงว่าเขาจะคิดมาก" นางประไพ กล่าวเสียงสะอื้น


ปาหิน!นิสิตสาววิศวะกะโหลกยุบ

แม่น้องวิว กล่าวต่ออีกว่า หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสภ.ท่าเรือ

ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไปดูที่เกิดเหตุ แต่ไม่รู้คืบหน้าไปถึงไหน ได้ยินเพียงว่าที่เกิดเหตุค่อนข้างมืด ไม่มีกล้องวงจรปิด กล้องที่มีก็อยู่ไกลที่เกิดเหตุ จึงอยากวอนให้ตำรวจช่วยติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจัง จับคนก่อเหตุมาลงโทษให้ได้ 

นายชาคร หรือน้องแบ๊ค สุขวัฑฒโก อายุ 19 ปี  เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถปิกอัพ อีซูซุ สีบรอนซ์ รุ่นดีแมคซ์

หมายเลขทะเบียน บพ 8680 กาญจนบุรี  ไปรับน้องที่หอนอกมหาวิทยาลัยเพื่อพาไปกินข้าวที่บ้าน  ตามเส้นทางกำแพงแสน-พระแท่น มุ่งหน้าท่ามะกา และขณะขับรถก็พูดคุยกันมาตลอดเส้นทาง และเมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุโดยที่ไม่ทันระวังตัว ก็มีหินขนาดใหญ่น้ำหนักเกือบ 2 กก. ปาเข้ามาทางกระจกหน้าจนแตกก่อนจะไปโดนหน้าของน้องจนเลือดเต็มหน้า ก่อนจะกระเด็นมาถูกขาซ้ายของตนและหล่นไปที่พื้นรถ

"ด้วยความตกใจที่เห็นน้องถูกก้อนหินตัวหนอน น้ำหนักเกือบ 2 กก. จนเลือดอาบหน้าจึงปล่อยพวงมาลัยแล้วมาประคองน้อง ก่อนที่จะค่อยๆ ขับรถพาน้องไปบ้านญาติที่อยู่อีกไม่ไกล และนำตัวส่งโรงพยาบาล
โดยไม่รู้ว่ากระจกที่แตกนั้นกระเด็นเข้ามาทิ่มในลูกตาดำของผม หลังจากให้แพทย์ตรวจแล้วจึงนำเศษกระจกออก ซึ่งก็ยังมองไม่ชัดเท่าไร"

นายชาคร ยังเล่าต่ออีกว่า เบื้องต้นแพทย์บอกว่า
 
น้องวิวกะโหลกแตกยุบไปทิ่มเยื่อสมอง จึงต้องผ่าตัดโดยด่วน และดันกะโหลกที่ยุบขึ้นมา และนำส่วนที่แตกเป็นเศษชิ้นเล็กๆ ออก ส่วนนัยน์ตานั้นยังต้องรอดูผลก่อนว่าจะเป็นอย่างไร ขณะนี้น้องยังไม่ทราบอาการของตัวเองเพราะไม่มีใครบอกเกรงว่าน้องจะคิดมาก

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุและตรวจดูกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณใกล้เคียงแล้วพบว่า ในช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 นาที มีวัยรุ่น 2 คนขับรถจักรยายนต์ผ่านไปโดยไม่เปิดไฟ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อมโยงกันหรือไม่ 

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์