เสี่ยเจ้าของร้านทองเลือดร้อนใช้กระบอกเหล็กไล่ทุบร้านค้าเพื่อนบ้าน จนเสียหาย เหตุตกลงเรื่องที่ดินหล้งบ้านที่อยู่ติดกันไม่ได้
เมื่อเวลา 13.00 น.ร.ต.ท.ทศพล ทับทิม ร้อยเวร สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีชายคุ้มคลั่งอาละวาทเข้าไปใช้ของแข็งทุบทำลายสิ่งของภายในร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าศรีไทย ริมถนนสุขุมวิทตรงข้ามศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง เลขที่ 650 หมู่ 6 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินทางตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ภายในร้านได้พบว่ามีชายรูปร่างท้วมผิวขาวศีรษะโล้น
กำลังใช้ของแข็งไล่ทุบร้านตู้โชว์นาฬิกาและทรัพย์สินอื่น ๆ ได้รับความเสียหายหลายรายการ เจ้าหน้าที่ได้เข้าระงับเหตุ แต่ชายคนดังกล่าวไม่เลิกรา ได้ไล่ทุบทำลายข้าวของภายในร้านไม่ยอมหยุด เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันล็อกตัวออกมาได้ พร้อมทั้งทำการตรวจยึดกระบองเหล็ก ที่ชายคนดังกล่าวใช้ทุบทำลายข้าวของในร้านดังกล่าวเอาไว้ โดยมีนายประวิทย์ โชติอภิสิทธิกุล เจ้าของร้านที่เกิดเหตุ และ นาย ชรินทร์ โชติอภิสิทธิกุล ผู้เป็นน้องชายชี้ยืนยันให้จับกุม ทราบว่าชายคนดังกล่าวชื่อนายโสภณ ไม่ทราบนามสกุล เจ้าของร้านทองซึ่งอยู่ติดกันก่อนคุมตัวมาทำการสอบสวนที่โรงพัก
ต่อมานายประวิทย์ โชติอภิสิทธิกุล เจ้าของร้านที่เกิดเหตุ และ นาย ชรินทร์ โชติอภิสิทธิกุล น้องชายเจ้าของร้าน ผู้เสียหาย
ได้เดินทางมาที่โรงพักสำโรงเหนือเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ขณะเดียวกันได้เกิดการประจันหน้ากับ นายโสภณผู้ก่อเหตุ ทันใดนั้น นายโสภณ เจ้าของร้านทองเลือดร้อนได้วิ่งออกมาชกต่อยผู้เสียหายบนโรงพัก ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหลายนาย ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก จนเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันแยกทั้งสองฝ่ายออกมา และได้ล็อกกุญแจมือนายโสภณ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดการทำร้ายกันขึ้นอีก โดยนำตัวนายโสภณ เข้าไปสงบสติอารมณ์ที่หน้าห้องขัง
จากการสอบสวนนาย ประวิทย์ เจ้าของร้านที่เกิดเหตุ ได้ให้การว่า ได้เปิดร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและนาฬิกามานานกว่า 30 ปี
ส่วนนายโสภณ เพิ่งมาเปิดร้านทองได้ไม่นาน และเมื่อไม่นานมานี้เจ้าที่ดินซึ่งอยู่ด้านหลังร้านของตนแจ้งว่า จะขายดินแปลงดังกล่าวให้กับตนในราคา 8 แสนบาท ตนจึงได้มาคุยกับนายโสภณ ว่าตนจะซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว หากนายโสภณ จะใช้เป็นทางเข้าออก อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายบ้าง ซึ่งตนได้บอกกับนายโสภณว่า จะให้นายโสภณ เป็นคนรับภาระเรื่องดอกเบี้ยให้เป็นรายเดือน แต่นายโสภณ กลับบอกว่าจะจ่ายให้เดือนละ 300-500 บาทเท่านั้น จึงตกลงกันไม่ได้และ ทำให้นายโสภณไม่พอใจ
จนกระทั่งเมื่อช่วงสายของวันนี้ในขณะที่ตนและน้องชายนั่งอยู่ในร้าน นายโสภณ ได้เดินเข้ามาในร้านพร้อมทั้งโวยวายว่าจะเอาค่าเช่าที่ด้านหลังมาจ่ายให้
พร้อมเอามือทั้งล้วงไปในกระเป๋ากางเกง ตนเห็นว่ามีวัตถุบางอย่างมีลักษณะคล้ายด้ามปืน แต่น้องสาวของนายโสภณ และลูกน้องวิ่งเข้ามาดึงมือของนายโสภณ เดินออกไปก่อน แต่พักใหญ่นายโสภณได้เดินกลับเข้ามาที่ร้านอีกครั้ง พร้อมด้วยกระบองเหล็ก มาไล่ทุบทำร้ายทรัพย์สินภายในร้ายของตนจนตู้โชว์นาฬิกาและอื่น ๆ แตกกระจายเกือบทั้งร้าน ทำให้ลูกค้าที่เข้ามาซื้อวิ่งหนีกันกระเจิง ตนจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายโสภณว่า ทำให้เสียทรัพย์ ก่อนควบคุมตัวเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป