พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เกิดเหตุไฟไหม้อาคารวีรสุ ถนนวิทยุซอย 1 ใกล้กับ
สถานทูตเวียดนาม มีผู้ติดค้างอยู่ภายใน ซึ่งเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้อยู่ระหว่างระดมฉีดน้ำเข้าใส่ตัวอาคาร แต่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งได้พยายามเข้าให้การช่วยเหลือผู้ติดค้างภายใน ทั้งนี้ อาคารดังกล่าวเป็นอาคารสำนักงานสูง 6 ชั้น โดยต้นเพลิงอยู่ที่ชั้น 3 ส่วนสาเหตุของการเพลิงไหม้นั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน หลักเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว เนื่องจากขณะนี้มีปริมาณรถหนาแน่น และมีเศษกระจกของอาคารแตก และกระเด็นออกมาเป็นระยะๆ จึงเกรงว่าจะเกิดอันตราย
จนท.เร่งคุมเพลิงไหม้อาคารวีรสุ ถนนวิทยุ
ความคืบหน้าล่าสุด เหตุเพลิงไหม้อาคารวีรสุ ถนนวิทยุซอย 1 ใกล้กับสถานทูตเวียดนาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ และยังคงมีแสงเพลิง รวมถึงกลุ่มควันเป็นจำนวนมากภายในอาคาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ระดมฉีดน้ำเข้าใส่ตัวอาคารอย่างต่อเนื่อง รวมถึง มีการจัดแบ่งเจ้าหน้าที่ 1 ทีม ขึ้นไปอยู่บนรถกระเช้า เพื่อฉีดน้ำเข้าไปภายอาคารในบริเวณชั้นที่ 3 และ 4 ซึ่งคาดว่าเป็นต้นเพลิง
สำหรับอาคารดังกล่าวนั้น เป็นที่ทำการสำนักงานใหญ่บริษัท วีรสุ รีเทล จำกัด และเป็นโชว์รูมขายอุปกรณ์เครื่องครัว ซึ่งในวันนี้มีพนักงานเดินทางมาทำงาน และขณะเกิดเหตุมีจำนวน 5 - 6 คน ได้วิ่งหนีขึ้นไปบนดาดฟ้าของอาคาร เพื่อรอการช่วยเหลือ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถกระเช้าเข้าช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดการจราจรถนนวิทยุ ตั้งแต่แยกสารสิน จนถึงช่วงตัดถนนสุขุมวิท ทั้งขาเข้าและขาออก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับรถน้ำเข้าได้ 2 ทาง
อย่างไรก็ตามขณะนี้ ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียเบื้องต้นได้ ต้องรอตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ความคืบหน้าล่าสุด เหตุเพลิงไหม้อาคารวีรสุ ถนนวิทยุซอย 1 ใกล้กับสถานทูตเวียดนาม ภายหลังเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระดมฉีดน้ำเข้าใส่ตัวอาคารอย่างต่อเนื่องนานกว่า 2 ชั่วโมง ขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว โดยไม่พบแสงไฟภายในอาคาร รวมถึงกลุ่มควันเริ่มเป็นสีขาว
ขณะที่มีรายงานเบื้องต้นว่า จากการตรวจสอบพบอาคารวีรสุ เป็นอาคารเก่าประมาณ 10 ปี และไม่มีสปริงเกอร์
ภายในตัวอาคาร ซึ่งหลังเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่จะเข้าทำการตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อทำการสอบสวนหาสาเหตุการเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงปิดการจราจรถนนวิทยุ ตั้งแต่แยกสารสิน จนถึงช่วงตัดถนนสุขุมวิท ทั้งขาเข้าและขาออก เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด รวมถึงเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ต่างๆ ออกจากพื้นที่