นัดเคลียร์หนี้ กลางแบงก์ ฆ่าสยอง 2 ศพสะท้านเมืองภูเก็ต!

ฆ่าสยอง 2 ศพสะท้านเมืองภูเก็ต! สองผู้เฒ่านักธุรกิจใหญ่ในจังหวัดนัดตกลงเคลียร์ปัญหาเงินขายฝาก "ที่ดิน"

มูลค่าหลายสิบล้านบาทกันที่ห้องประชุมธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาพูลผล โดยมีผจก. สาขา เป็นคนกลางไกล่เกลี่ย แต่ผลสุดท้ายก็ยังเจรจาไม่ลงตัว พอคนกลางขอตัวออกไปนอกห้อง เพื่อเปิดทางให้สองฝ่ายเปิดอกคุยกัน ปรากฏว่าฝ่ายลูกหนี้ชักมีดออกมาจากเอวกระหน่ำแทงคู่กรณีล้มฟุบจมกองเลือด ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุก็เอามีดแทงตัวเองฆ่าตัวตายตาม

เมื่อเวลาประมาณ 12.35 น. วันที่ 6 มิ.ย. พ.ต.ท.ยงยุทธ กรองมาลัย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งเหตุคนแทงกันตาย 2 ศพ บนชั้น 2 ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาพูลผล ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต

พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต นำเจ้าหน้าที่รุดไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบประชาชนมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก

ทำให้รถติดยาวเหยียดหน้าธนาคารดังกล่าว ส่วนบริเวณห้องประชุมชั้น 2 ซึ่งเป็นฝ่ายสินเชื่อ มีเก้าอี้ล้มกระจัดกระจาย คราบเลือดไหลนองพื้น พบผู้เสียชีวิต 2 ศพ ทราบชื่อ นายไพบูลย์ เวชวานิชสนอง อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 3 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ถูกมีดแทงเข้าลำคอ 1 แผล ใต้รักแร้ 1 แผล และแขนอีก 1 แผล อีกรายคือนายพณธกร ธีราเบญจกุล อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 413 หมู่ 6 ต.แพรกสา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สภาพศพนอนหงายทับอยู่บนขานายไพบูลย์ ตรงหน้าอกมีมีดปักคาอยู่เกือบมิดด้าม ตามร่างกายถูกแทงหลายแผล เจ้าหน้าที่นำศพไปชันสูตรที่ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตอย่างละเอียด

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายไพบูลย์ เป็นนักธุรกิจมีชื่อเสียงในเกาะภูเก็ต

และนั่งตำแหน่งเหรัญญิกศาลเจ้าท่าเรือ รวมทั้งยังเป็นพี่ชายแท้ๆ ของนายไพศาล เวชวานิชสนอง หรือ ?บิ๊กกุ่ย? เจ้าของบริษัทจำหน่ายจักรยานยนต์รวมพงศ์มอเตอร์ภูเก็ต ส่วนนายพณธรเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเช่นเดียวกัน

ก่อนเกิดเหตุผู้ตายทั้ง 2 คนนัดมาพบกันที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาพูลผล
 
เพื่อเจรจาตกลงเรื่องที่นายพณธรนำโฉนดที่ดินสร้างอพาร์ตเมนต์หรูบริเวณบ่อปลาตากแดด ต.ทุ่งทอง อ.กะทู้ ไปขายฝากกับนายไพบูลย์ในราคา 30.8 ล้านบาท เมื่อประมาณ 3 ปีก่อนและขาดการชำระเงินต่อเนื่อง ทำให้นายไพบูลย์ยึดทรัพย์สินที่นำมาขายฝาก

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายนายพณธรไม่ยินยอมเพราะเห็นว่าราคาที่ดินที่นำมาขายฝากนั้น

ล่าสุดพุ่งสูงขึ้นไปเกือบ 50 ล้านบาท จึงต้องการเงินส่วนต่างที่เกินจาก 30.8 ล้านบาท แต่นายไพบูลย์ไม่ตกลง จึงนัดมาเจรจากันที่ห้องประชุมของธนาคารกรุงศรีฯ โดยมีนายโสภณ อุดมทรัพย์ ผู้จัดการสาขา เป็นคนกลางไกล่เกลี่ย แต่จนแล้วจนรอดทั้ง 2 ฝ่ายก็ยังตกลงกันไม่ได้ ผจก.ธนาคารฯ ขออนุญาตออกจากห้อง เพื่อเปิดทางให้เจ้าทรัพย์และลูกหนี้คุยกันเปิดอก 2 ต่อ 2

ต่อมาประมาณ 10 นาที เหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น

เมื่อนายพณธกรควักมีดปลายแหลมออกจากเอวแล้วแทงใส่นายไพบูลย์ 3 ครั้งซ้อนจนล้มฟุบนองจมกองเลือดเสียชีวิตทันที หลังก่อเหตุ นายพณธกรเดินกระวนกระวายอยู่ในห้อง กระทั่งในที่สุดใช้มีดเล่มเดียวกันแทงปักเข้าที่หน้าท้องของตัวเองหลายครั้ง ก่อนแทงเข้าตรงหน้าอกซ้ายบริเวณขั้วหัวใจ ล้มทรุดลงไปทับอยู่บนร่างของนายไพบูลย์เสียชีวิตทั้งคู่

ตำรวจชุดสืบสวน ระบุว่า สาเหตุการฆ่าโหดครั้งนี้เกิดจากการที่นายพณธกรนำโฉนดที่ดินไปจำนองขายฝากไว้กับนายไพบูลย์แล้วขาดการชำระเงิน นายไพบูลย์จึงยึดทรัพย์สิน ด้านนายพณธกรต้องการเงินส่วนต่างที่ขายฝากไปเพราะราคาทรัพย์สินเพิ่มขึ้น แต่นายไพบูลย์ไม่ยอมจึงเกิดเหตุแทงดับสยองคาธนาคารดังกล่าว