ตร.ภาค1 รวบร.ต.อ.โจรปล้นร้านทองออโรร่า ย่านปากเกร็ดได้สำเร็จ ตะครุบตัวขณะปฏิบัติหน้าที่รองสว.สส. โรงพักท่าหิน อ.เมืองลพบุรี
ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ยืนยันลงมือเพียงลำพัง หาเงินใช้หนี้พนัน ไม่เกี่ยวกับผู้บังคับบัญชา หรือองค์กรตำรวจแต่อย่างใด เผยก่อนหน้านี้เคยอยู่สภ.ปากเกร็ด รับจ๊อบเป็นรปภ.ร้านทองแห่งนี้มาก่อน รู้ทางหนีทีไล่ จึงลงมือปล้น แฉเบื้องหลังตร.สืบจากกล้องวงจรปิด พบคนร้ายขับกระบะวีโก้คันเดียวกับที่คนร้ายใช้ อีกทั้งพยานในร้านทองยังจำได้ว่าคนร้ายจับปืนมือซ้าย ตรงกับที่ร.ต.อ.ถนัด เลยขยายผลจับกุมไว้ได้
จากกรณีคนร้ายเป็นชายปิดบังใบหน้า ควงปืนบุกเดี่ยวปล้นห้างทองออโรร่า สาขาห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า
สาขาถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้ทองคำน้ำหนัก 209 บาท มูลค่า 4,970,515 บาท พร้อมเงินสด 161,580 บาท หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นทองรูปพรรณหนัก 170 บาท หลบหนีไป ซึ่งต่อมา พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 สั่งการให้พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รอง ผบช. ภ.1 ลงจี้คดีตามล่าคนร้ายมาดำเนินคดี
กระทั่งตำรวจสืบสวนภ.1 และตำรวจสืบสวน ภ.จว.นนทบุรี ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และสอบปากคำผู้เสียหาย
พบว่าคนร้ายมีรูปพรรณสันฐานคล้ายร.ต.อ. ปองภพ ปิ่นจันทราบัว อายุ 35 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็น รอง สว.สส.สภ.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี โดยก่อนหน้านี้ ร.ต.อ. ปองภพ เคยทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย ร้านทองแห่งนี้ เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด ตามที่เสนอไปนั้น
บุกจับรตอ.โจร-ปล้นร้านทอง5ล้าน
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เริ่มเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 5 มิ.ย. พล.ต.ต.เมธี พล.ต.ต.วัฒนา เขตร์สมุทร ผบก.ภ.จว.ลพบุรี
พร้อมกำลัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนภ.จว.นนทบุรี และชุดสืบสวน ภ.จว.ลพบุรี นำหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 173/2556 ลงวันที่ 27 มี.ค.2556 เข้าจับกุมร.ต.อ.ปองภพ ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จ.ลพบุรี ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ ร.ต.อ.ปองภพพกอาวุธปืนพกประจำกายพร้อมใช้งานตลอดเวลา แต่ไม่มีเหตุรุนแรงอะไร คนร้ายยอม ให้จับกุมแต่โดยดี หลังจากนั้นจึงพาไป ค้นบ้านพัก พบทองรูปพรรณจำนวน 25 เส้น น้ำหนักประมาณ 53 บาท อาวุธปืนพกสั้น รีวอลเวอร์ .38 ของทางราชการ 1 กระบอก กระเป๋าสะพายสีดำที่ใช้ใส่ทอง 1 ใบ พร้อมรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กธ 487 สระบุรี ที่ใช้ก่อเหตุ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
ขณะที่ชุดทำงานของพล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รอง ผบช.ภาค 1 นำกำลังอีกชุดเข้าตรวจค้นบ้านพักแฟนสาวของร.ต.อ.ปองภพ เพื่อค้นหาหลักฐานเช่นกัน หลังจากนั้นจึง นำตัวร.ต.อ.ปองภพ มาแถลงข่าวที่บช.ภ.1 ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ท.นเรศ พล.ต.ต.เมธี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และพ.ต.อ.นฤนาท พุทไธสง ผกก.สภ.ปากเกร็ด ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้ายรายนี้
โดยพล.ต.ท.นเรศกล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ติดตามพฤิตกรรมร.ต.อ.ปองภพ มานาน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสภ.ปากเกร็ด สืบสวนภ.จวผนนทบุรี และ ชุดสืบสวนบก.สส.ภ.1 แกะรอยจากพยานและกล้องวงจรปิด จนทราบว่ารถกระบะคัน ดังกล่าว เป็นกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ แชมป์ 2500 ซีซี ดีเซล รุ่นท็อป ทะเบียน กธ 487 สระบุรี เป็นรถของแฟนสาวร.ต.อ.ปองภพ ที่เจ้าตัวใช้เป็นประจำจึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด
ด้านร.ต.อ.ปองภพกล่าวว่า ลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว สาเหตุที่ได้ทำไป เพราะมีปัญหาเรื่องการใช้จ่าย
และมีหนี้สินจากการเล่นการพนันจำนวนมาก และในการกระทำผิดในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับผู้บังคับบัญชา หรือองค์กรตำรวจแต่อย่างใด ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ไม่ขอพูดใดๆ ทั้งสิ้น จากขอให้ปากคำในชั้นศาลเท่านั้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ชิงทรัพย์ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.ปากเกร็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ร.ต.อ.ปองภพ เดิม รับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม อยู่ที่สภ.ปากเกร็ด ก่อนจะสอบเลื่อนขั้น ชั้นสัญญาบัตรได้ และย้ายไปเป็นรองสว.สส.ที่ สภ.ท่าหิน แต่ก็ยังมีห้องพักที่พักอยู่กับแฟนสาวที่ข้างสภ.ปากเกร็ด ซึ่งเบื้องหลัง การจับกุมครั้งนี้ เริ่มจากพล.ต.ต.เมธี สั่งการให้ชุดสืบสวนแกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิด และสอบปากคำพยานแวดล้อมต่างๆ จนกระทั่งได้เบาะแสว่าคนลงมือ คือร.ต.อ.ปองภพ
โดยในวันเกิดเหตุกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพรูปพรรณสันฐานของร.ต.อ.ปองภพ
และรถกระบะโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดป้ายทะเบียน เอาไว้ได้ ตรงกับรถของร.ต.อ.ปองภพ ที่เจ้าตัวใช้ขับขี่ไปมา และขับมาจอดที่ห้องพักข้างโรงพักปากเกร็ดเป็นประจำ ประกอบกับคำให้การของพยานในร้านทอง ให้การว่า วันเกิดเหตุคนร้ายจับปืนมือซ้าย ซึ่งก็ตรงกับความถนัดของร.ต.อ. ปองภพ ที่ถนัดมือซ้ายเช่นกัน อีกทั้งร.ต.อ.ปองภพยังเคยรับจ้างรักษาความปลอดภัยในร้านทองแห่งนี้อีกด้วย จึงทำให้พยานพอจำลักษณะรูปพรรณได้
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ปล้นห้างทองออโรร่า
ปรากฏว่าร.ต.อ.ปองภพ มีเงินใช้จ่ายเกินตัว ตระเวนจ่ายหนี้พนันและค่าห้องพักที่ค้างอยู่จนหมดหนี้ กระทั่งชุดสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานนำมาสู่การจับกุมจนได้ ทั้งนี้ ชุดสืบสวนยังตรวจสอบเฟซบุ๊กของร.ต.อ.ปองภพ พบว่ามีรูปภาพบางรูปที่ร.ต.อ.ปองภพ สวมใส่เสื้อผ้าชุดเดียวกับวันที่ลงมือปล้นห้างทองออโรร่าอีกด้วย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังขยายผลถึงคดีปล้นร้านทองอีก 2 คดีก่อนหน้านี้ ที่คนร้ายถนัดมือซ้าย จับอาวุธปืนมือซ้ายลงมือปล้นเช่นกัน ว่าจะมีส่วนคล้ายพฤติกรรมของร.ต.อ.ปองภพหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ