ดีเอสไอรับรถหรูเป็นคดีพิเศษ

ดีเอสไอรับรถหรูเป็นคดีพิเศษ

เผยบัญชีดำรถเลี่ยงภาษีในไทยเฉียด 7 พันคัน แยกเป็น 2 กลุ่มจดทะเบียนแล้วกว่า 5 พันคัน รอจดประกอบอีกกว่า 1 พันคัน ระบุนนทบุรีรับจดทะเบียนมากสุดกวา 2 พันคัน ไม่ยืนยันนักการเมืองเป็นเจ้าของ

วันนี้ (3 มิ.ย.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ

กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบรถหรูที่เกิดเหตุเพลิงไหม้จำนวน 6 คัน ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า ในวันนี้ได้เซ็นคำสั่งรับคดีดังกล่าวไว้เป็นคดีพิเศษแล้ว เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฐานเลี่ยงภาษี เข้าข่ายผิดพ.ร.บ.ศุลกากร ที่เป็นบัญชีแนบท้ายของดีเอสไอ ทำให้ตนในฐานะอธิบดีดีเอสไอมีอำนาจสั่งการรับเป็นคดีพิเศษได้โดยไม่ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.)  ซึ่งหลังจากนี้ดีเอสไอจะประสานขอโอนสำนวนการสอบสวนทั้งหมดจาก สภ.กลางดง และในวันพรุ่งนี้ได้มอบหมายให้พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ไปประสานการทำงานเพื่อเดินหน้าคดีทันที ซึ่งจากการประสานข้อมูลเบื้องต้นที่พบรถหรูยี่ห้อลัมโบกินี่ สีขาว 1 คัน  เป็นรถหรูที่อยู่ในบัญชีเป้าหมายที่ดีเอสไอติดตามอยู่ โดยอยู่ในกลุ่มรถเตรียมนำไปจดประกอบซึ่งดีเอสไอพบว่ามีกว่า 1,000  คัน ส่วนอีกกลุ่มที่ดีเอสไอเก็บข้อมูลและติดตามอย่างต่อเนื่องกว่า 2 ปี คือ รถหรูเลี่ยงภาษีที่นำไปจดทะเบียนแล้ว มีจำนวน 5,832 คัน โดยในจำนวนนี้ดีเอสไอยังมีข้อมูลของพื้นที่ที่พบการจดทะเบียน 21 จังหวัด จังหวัดทีมีการรับจดทะเบียนรถในกลุ่มนี้มากทีสุด คือ จ.นนทบุรี 2,253 คัน  รองลงมา คือ จ.สระบุรีมี 1,046  คัน กทม.มี 891 คัน  ส่วน จ.ศรีษะเกษ พบว่ามีจำนวน 19 คัน

นายธาริต  กล่าวอีกว่า  สำหรับรถลัมโบกินี่คันดังกล่าว ดีเอสไอมีรายละเอียดการครอบครองและนำเข้าทั้งหมด
 
โดยพบว่ามีบุคคลเข้าไปเกี่ยวข้องจำนวน 18 คน ทั้งเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร  สรรพสามิต  วิศวกรตรวจสอบและรับรองการติดตั้งแก๊ส ซึ่งข้อมูลที่พบชื่อบริษัทที่แจ้งจดประกอบ คือ บริษัทธรรมะ มอเตอร์ ริช จำกัด มีผู้ประกอบการคือ นางพรพิมล เคหะฐาน ส่วนชื่อผู้ซื้อเครื่องยนต์ คือ นางสุกัญญา สมบัติดี ขณะที่บริษัทนำเข้า คือ บริษัท พี เอ เอ็น เอ็กเพรส จำกัด อย่างไรก็ตามเชื่อว่า รถยนต์อีก 6 คันที่เหลือน่าจะเกี่ยวข้องกับการหลบเลี่ยงภาษีเช่นกัน โดยข้อมูลของดีเอสไอพบว่า มีรถลัมโบกินี่ 3 คันที่อยู่ในเป้าหมายระหว่างดำเนินการจดประกอบ พบแล้ว 1 คัน คือ คันที่เกิดเหตุไฟไหม้ ดังนั้นต้องติดตามอีก 2 คันที่เหลือ  ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงนำรถไปจดทะเบียนที่ จ.ศรีษะเกษ อยู่ระหว่างการสืบสวนเพื่อให้เกิดความชัดเจน

นายธาริต ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องดังกล่าวอาจมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องว่า
 
เบื้องต้นจากการสืบสวนยืนยันว่ายังไม่พบมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่เชื่อว่าการสอบสวนหลังจากนี้น่าจะมีรายชื่อนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องเนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อรถหรูจะเป็นระดับนักการเมืองหรือนักธุรกิจที่มีฐานะ สำหรับฐานความผิดของผู้ประกอบการเหล่านี้คือความผิดตามพ.ร.บ.ศุลกากร ฐานหลบเลี่ยงภาษี ส่วนผู้ที่ซื้อรถต้องดูเจตนาเป็นหลัก แต่จากข้อมูลของดีเอสไอพบว่ากลุ่มผู้ซื้อรถหรูจะรู้ที่มาที่ไปและระบบของขบวนการเหล่านี้อยู่แล้ว ว่าไม่สามารถนำมาประกอบในประเทศไทยได้ เพราะประเทศไทยไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการนำรถมาประกอบ
 
เมื่อถามถึงกรณีที่มติครม.ห้ามไม่ให้นำเข้าชิ้นส่วนรถมาจดประกอบเด็ดขาด
แต่พบว่ายังมีการรับจดทะเบียนรถจดประกอบอยู่นั้น พ.ต.ท.กรวัชร์  กล่าวว่า  แม้จะมีมติ ครม. แล้วแต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ออกประกาศบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ทำให้ยังพบว่ามีการนำชิ้นส่วนรถมาแจ้งจดประกอบในประเทศไทยอยู่

สำหรับบัญชีรายชื่อรถที่นำเข้าหลบเลี่ยงภาษี อาทิ  รถมินิคูเปอร์  596  คัน โฟคสวาเก้น 511 คัน บีเอ็มดับเบิลยู 281 คัน เมอร์ซิเดสเบนซ์ 823 คัน.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์