ดีเอสไอบุกจับหนุ่มรัสเซีย ตั้งตัวเป็นมาเฟียอยู่พัทยา ปล่อยเงินกู้ให้เพื่อนร่วมชาติ คิดดอกเบี้ยมหาโหด ร้อยละ 60 ต่อเดือน
โดยยึดพาสปอร์ตเป็นประกัน หากไม่จ่ายหรือจ่ายไม่ครบก็พาพวกรุมตื้บ ก่อนแจ้ง ตร.จับฐานไม่มีพาสปอร์ต เผยมีเหยื่อร่วม 300 คน รมช.มท.ร่วมแถลงข่าว พร้อมสั่งการให้ล่าตัวเพื่อนร่วมแก๊งให้ได้โดยเร็ว หลังพบหนุ่มแสบทำหน้าที่แค่รับโทรศัพท์และทำบัญชีรับ-จ่าย
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 2 มิ.ย. นายประวิทย์ ไชยบัวแดง ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 2 พร้อมเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ร่วมกันจับกุมตัวนายไอรัต คาบีเรียนนอฟ อายุ 25 ปี ชาวรัสเซีย ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทยา ที่ 393/2556 ในฐานความผิดให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงิน โดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายไอรัตจะเดินทางมาที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พัทยาบีช จึงนำกำลังไปดักเฝ้า
จนกระทั่งพบนายไอรัตยืนอยู่บริเวณหน้าร้านกาแฟ สตาร์บัคส์ จึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่นายไอรัตไหวตัวทันพยายามวิ่งหลบหนีขึ้นรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน กล 2384 ชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามจับกุมไว้ได้ พร้อมกับแสดงหมายจับของศาลจังหวัดพัทยา และแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ
ตรวจค้นรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ พบหลักฐานเป็นสำเนาหนังสือเดินทางลูกค้าชาวต่างชาติ กว่า 10 ราย และสมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม จึงคุมตัวไปค้นบ้านพักของนายไอรัต ตั้งอยู่เลขที่ 417/3 ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณรั้วรอบตัวบ้านมีโปสเตอร์แสดงการชักชวนให้กู้ยืมเงินภาษารัสเซีย ติดอยู่ 2 แผ่น
และสามารถยึดของกลางเพิ่มเติม เป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง บัตรวีซ่า บัตรมาสเตอร์การ์ด สำเนาหนังสือเดินทาง 12 แผ่น สำเนาตารางใช้ค่างวดเงินกู้ 2 แผ่น ยอดเงินหลายล้านบาท
ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย นายชาญยุทธ เฮงตระกูล ที่ปรึกษา รมช.มหาดไทย
นายคมสัน เอกชัย ผวจ.ชลบุรี พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ชัชวาลย์ พิสุทธิวงส์ รรท.ผกก.สภ.เมืองพัทยา และนายประวิทย์ ไชยบัวแดง ผอ.ดีเอสไอภาคตะวันออก นำตัวนายไอรัต ผู้ต้องหาในคดีนี้มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยมีบรรดาผู้เสียหายชาวรัสเซียที่ตกเป็นเหยื่อรวม 5 รายชี้ตัวยืนยัน
พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมามีผู้เสียหายชาวรัสเซีย 10 คนเดินทางมาร้องเรียนกับศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 2
ว่าถูกกลุ่มชาวรัสเซียและชาวไทย ที่ร่วมหุ้นทำธุรกิจปล่อยเงินกู้นอกระบบ ทำร้ายร่างกายและยึดพาสปอร์ตไว้จนได้รับความเดือดร้อน ภายหลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข่าวจนทราบว่าแก๊งดังกล่าวมักจะปล่อยเงินกู้ให้กับผู้เสียหาย รายละ 5,000-30,000 บาท โดยผู้กู้ต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 2 ต่อวัน หรือร้อยละ 60 ต่อเดือน และต้องทำสัญญาพร้อมกับยึดพาสปอร์ตไว้เป็นประกัน ถ้าครบกำหนด 10 วันจะต้องจ่ายดอกเบี้ยก่อน หากรายใดไม่มีเงินชำระก็จะถูกตามทวงหนี้จนถึงขั้นทำร้ายร่างกาย หรือพาไปกักขัง ก่อนแจ้งตำรวจให้จับในข้อหาไม่มีพาสปอร์ต เบื้องต้นพบบัญชีลูกค้ามีรายชื่ออยู่จำนวน 285 ราย ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นชาวรัสเซีย โดยแก๊งเงินกู้ข้ามชาติดังกล่าวได้ประกอบธุรกิจเถื่อนมาตั้งแต่เดือนพ.ย.2555 แล้ว ส่วนนายไอรัต ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้จะทำหน้าที่เป็นคนรับโทรศัพท์จากลูกค้า และทำบัญชีรายรับรายจ่าย
ทั้งนี้ สั่งการให้เร่งขยายผลจับกุมกลุ่มนายทุน และผู้ร่วมขบวนการที่ยังเหลืออยู่อีกหลายคน ซึ่งมีทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะถือเป็นแก๊งใหญ่ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาว ต่างชาติ