วันนี้ (2 มิ.ย.) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ. ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)
กล่าวถึงการลงพื้นที่สภ.กลางดง จ.นครราชสีมา ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก และกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ตรวจสอบกรณีรถหรูเกิดเพลิงไหม้ขณะบรรทุกไปส่งลูกค้า ที่ จ. ศรีสะเกษ เหตุเกิดบริเวณ ทางขึ้นเขาหลัก กม . ที่ 36-37 ถ. มิตรภาพ ต. กลางดง อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า เบื้องต้นพบว่ามีรถหรู 1 ใน 6 คัน คือลัมโบกินี่ สีขาว มีเลขตัวถังตรงกับบัญชีรถเลี่ยงภาษีที่ดีเอสไอตรวจสอบได้ก่อนหน้านี้ โดยจะรอผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการจากพฐ.อีกครั้ง เพื่อเสนอข้อเท็จจริงให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.) ในความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.ศุลกากร
เนื่องจากรถเหล่านี้เป็นรถหรูที่นำเข้ามาทั้งคันแต่เลี่ยงภาษีด้วยการแจ้งว่าเป็นนำเข้าชิ้นส่วนเพื่อนำมาประกอบเป็นรถจดประกอบ
ซึ่งจะทำให้เสียภาษีต่ำกว่าการนำเข้าทั้งคันประมาณ 200 % แต่ข้อเท็จจริงพบว่ารถเหล่านี้เป็นรถราคาแพง มีเทคนิคในการประกอบชั้นสูงไม่สามารถแกะชิ้นส่วนเพื่อนำมาประกอบได้แน่นอน ซึ่งดีเอสไอมีบัญชีรถจดประกอบและรถเลี่ยงภาษีนำเข้าเหล่านี้เป็นจำนวนมาก และในวันพรุ่งนี้(3 มิ.ย.) จะนำเสนอข้อมูลให้อธิบดีดีเอสไอพิจารณานำเข้าที่ประชุมคดีพิเศษในลักษณะของปัญหาทั้งระบบ โดยใช้กรณีดังกล่าวเป็นตัวอย่าง
พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวอีกว่า ดีเอสไอได้ประสานข้อมูลการตรวจสอบรถจดประกอบและรถหรูเลี่ยงภาษีอย่างต่อเนื่อง
โดยได้ประสานข้อมูลอย่างใกล้ชิดกับกรมการขนส่งทางบก ซึ่งก่อนหน้านี้มีการขอตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนรถหลายคันที่อยู่ในบัญชีที่ดีเอสไอรวบรวมไว้ได้ว่าเป็นรถหรูที่นำเข้ามาโดยการหลบเลี่ยงภาษี มีการสำแดงหลักฐานเป็นรถจดประกอบเพื่อให้เสียภาษีต่ำกว่าความเป็นจริง.