วันนี้ (28 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานกรณีน้ำภายในบึงบอระเพ็ด เขตพื้นที่อุทยานนกน้ำ ต.พระนอน อ.เมือง จ.นครสวรรค์
มีสภาพแห้งขอดจนส่งผลกระทบต่อสัตว์ โดยเฉพาะนกนานาชนิดภายในบึง อีกทั้ง ยังทำให้การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติได้รับความเดือดร้อนตามไปด้วย เนื่องจากบรรดาเจ้าของเรือรับจ้างท่องเที่ยว ไม่สามารถพานักท่องเที่ยวออกเรือไปชมนกได้ จึงทำให้ต้องหยุดกิจการดังไปโดยปริยายนานกว่า 2 เดือน และไม่รู้ด้วยว่า ต้องใช้ระยะเวลาอีกนานเท่าไหร่ ถึงจะกลับมาประกอบกิจการแบบเดิมได้
จากการเดินทางไปตรวจสอบ พบว่า สภาพของบึงบอระเพ็ด ในเขตพื้นที่อุทยานนกน้ำ มีแห้งจัด จนชาวบ้านในระแวกใกล้เคียง
สามารถพาฝูงวัวเดินออกมาหาหญ้ากินในบึงได้ ทั้งที่ บริเวณแห่งนี้ เคยมีน้ำอยู่เต็มไปหมด และแม้เมื่อช่วง 2 สัปดาห์ก่อน จะเริ่มมีฝนตกลงมาบ่อยครั้งแล้ว แต่ปริมาณน้ำฝน ก็ยังไม่สามารถเติมเต็มบึงบอระเพ็ดที่มีพื้นที่ครอบคลุม อ.เมือง อ.ชุมแสง และ อ.ท่าตะโก ของนครสวรรค์ มากถึง 132,737 ไร่ได้ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูล ทราบว่า สภาพดังกล่าว เป็นผลมาจากฤดูแล้งในช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้เกษตรกรที่ทำไร่นาอยู่รอบบริเวณบึงบอระเพ็ดต้องแย่งกันสูบน้ำเข้าพื้นที่ของตัวเอง อีกทั้ง ยังมีการสูบน้ำจากบึงไปใช้ในการผลิตน้ำประปาด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนของการท่องเที่ยวอุทยานนกน้ำ พบว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา และแทบไม่มีนักท่องเที่ยวแม้แต่รายเดียว
โดยเฉพาะที่ท่าเรือรับนักท่องเที่ยว ปรากฏว่า ทั้งเรือประมงของชาวบ้าน และเรือรับจ้างท่องเที่ยว ต่างจอดแน่นิ่งเกยอยู่บนพื้นดินในบึงน้ำ รวมกันไม่ต่ำกว่า 10 ลำ และนอกจากนี้ ยังพบอีกว่า บรรดาร้านอาหาร ร้านขายของโชห่วยให้กับนักท่องเที่ยว ที่อยู่ติดริมบึง ต่างต้องตกอยู่ในภาวะที่เดือดร้อนจากการขาดรายได้จากนักท่องเที่ยวไม่ต่างกันด้วย
สอบถามนายพนม คราวจันทร์ทึก อายุ 63 ปี เจ้าของเรือรับจ้างท่องเที่ยวรายหนึ่ง
เปิดเผยว่า ประกอบอาชีพมานานกว่า 39 ปี เพิ่งจะมาเห็นบึงบอระเพ็ดตกอยู่ในสภาพดังกล่าวก็ปีนี้ เพราะปริมาณน้ำแห้งขอดมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนๆ โดยปกติทุกปี ปริมาณน้ำในบึงจะเริ่มน้อยลงในช่วงต้นเดือนเมษายน แต่ปีนี้ กลับแห้งมากอย่างน่าใจหายมาตั้งแต่เมื่อปลายเดือนมีนาคมแล้ว ส่งผลทำให้ตนและเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกัน ต้องหยุดกิจการและขาดรายได้ไปนานกว่า 2 เดือน อีกทั้ง ยังต้องทิ้งเรือจอดเกยตื้นไว้แล้วหันไปประกอบอาชีพรับจ้างอย่างอื่นแทนไปก่อนที่ฤดูน้ำหลากจะมาถึงอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มด้วยว่า ผลกระทบจากน้ำแห้งขอดภายในบึงบอระเพ็ดปีนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเพียงเท่านั้น
เพราะนอกจากจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในบึงเปลี่ยนแปลง ทำให้นกนานาชนิดที่เคยอพยพมาอาศัยอยู่ลดจำนวนลงแล้ว ยังได้ส่งผลกระทบทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่รอบบึง ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง และเก็บฝักบัวขาย ต้องเปลี่ยนอาชีพไปทำงานรับจ้างในตัวเมือง บ้างก็เก็บพืชผักตามริมบึงขายเพื่อเลี้ยงชีพแทน.