ความคืบหน้ากรณีนางเพียงใจ คิม อายุ 37 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาล่อลวงหลานสาววัย 17 ไปค้าประเวณีที่กรุงโซลประเทศเกาหลี ที่ส่อแวววุ่นหนัก เนื่องจากบิดาและปู่ของสาววัย 17 ปี ออกมาให้การตรงกันว่าอาสาวไม่ได้หลอกลวง แต่เด็กเต็มใจไปเองโดยครอบครัวรับรู้มาตลอด แต่ปั้นเรื่องโกหกตำรวจเพราะอยากกลับบ้านที่เมืองไทย ขณะที่นางเพียงใจปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ตำรวจตั้ง 5 ข้อหาและอยู่ระหว่างฝากขังนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 พ.ค. พล.ต.ต. ชวลิต แสวงพืชน์ ผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ หรือ ผบก.ปคม. กล่าวว่า สัปดาห์หน้าจะเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากล่าสุดมารดาสาววัย 17 ซึ่งปัจจุบันแยกกันอยู่กับสามี ได้เข้าพบตำรวจขอเป็นผู้กล่าวหาที่ 2 โดยยืนยันว่าลูกสาวถูกล่อลวงไปขายบริการทางเพศที่เกาหลีจริง โดยยืนยันว่าอาแท้ๆ เป็นผู้หลอกลวงไป สวนทางกับคำให้การของฝ่ายอาสาวและบิดา ทำให้ตำรวจค่อนข้างหนักใจในคดีนี้
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ต้องสอบสวนอย่างระมัดระวัง เนื่องจากอาจจะเป็นกรณีขัดแย้งและกล่าวหากันภายในครอบครัว เนื่องจากบิดามารดาแยกทางกันแล้ว อาจมีความขัดแย้งส่วนตัว รวมทั้งแย่งเลี้ยงดูลูกสาว หากสอบสวนแล้วฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดให้การเท็จ ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน ทั้งนี้สาววัย 17 เป็นคนสำคัญที่สุดในการให้การข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น