อาสาวเด็ก 17 ขายตัวเกาหลี เข้ามอบตัวตำรวจกลางดึก

 จากกรณีที่ บก.ปคม.ได้ประสานตำรวจกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เข้าช่วยเหลือน.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปีชาวจ.ร้อยเอ็ด  ที่ถูกขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติหลอกลวงไปบังคับค้าประเวณีที่ร้านอยุธยาในกรุงโซล โดยทางตำรวจได้รับการประสานจาก น.ส.เอ ผ่านทางเฟสบุค้ว่าถูกอาสาวแท้ ๆที่แต่งงานกับชาวเกาหลีใต้และเปิดร้านนวดแผนไทยที่กรุงโซลหลอกลวงให้ไปทำงานที่ร้านอาหาร แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับถูกแก๊งมาเฟียยึดพาสปอร์ตและบังคับให้ค้าประเวณี วันละ 20 ชั่วโมง โดยศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับน้าสาว น.ส.เอ

ล่าสุดที่ บก.ปคม. เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 23 พฤษภาคม . นางเพียงใจ คิม อายุ 37 ปี อาสาวของน.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี

ได้เดินทางกลับจากประเทศเกาหลี ด้วยสายการบิน อีส สตาร์ เจ็ท เที่ยวบินที่ ZE511 ออกจากจากกรุงโซล 17.30 น. ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 22.30 น. ก่อนเดินทางเข้ามอบตัวกับพ.ต.ท.ชูศักดิ์ อภัยภักดิ์ พงส.ผนพ.กก1.บก.ปคม.พร้อมบิดา โดยนางเพียงใจ มีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา ขณะคุมตัวไปสอบสวน

          
 นางเพียงใจ กล่าวว่า ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่นวดแผนไทยที่ร้าน อยุธยา ในกรุงโซล ประเทศเกาหลี มาได้ 9 ปี แล้ว

โดยเป็นเพียงพนักงานเท่านั้น ไม่ได้เป็นเจ้าของหรือหุ้นส่วนร้านแต่อย่างใด ซึ่งเดือนที่แล้วหลานสาวได้ติดต่อขอมาทำงานด้วย และด้วยความสงสารจึงพามาทำงานที่ร้านดังกล่าวเมื่อ 10 วันที่แล้ว ก่อนจะมาทราบว่าหลานสาวได้ติดต่อกับตำรวจนายหนึ่งที่เมืองไทยเพื่อขอความช่วยเหลือกลับประเทศ จนกระทั่งตนต้องมาถูกศาลออกหมายจับ

           
 "ฉันยืนยันว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้มีเรื่องกับหลานสาวแต่อย่างใด และขณะนี้ไม่ได้ติดต่อหลานสาวมา 3 วันแล้ว ทั้งนี้เมื่อเดินทางมามอบตัวแสดงบริสุทธิ์ใจแล้ว ได้ปรึกษากับเจ้าของร้านนวดแผนไทยแล้ว ซึ่งเห็นว่าการกระทำของนายตำรวจดังกล่าว ทำให้ตัวฉันและร้านได้เสื่อมเสียชื่อเสียง หลังเสร็จเรื่องจะดำเนินการฟ้องกลับอย่างแน่นอน"นางเพียงใจกล่าว

              
ด้านพ.ต.ท.ชูศักดิ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา 5 ข้อหาว่า

1.สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานค้ามนุษย์และได้ลงมือกระทำผิดตามที่สมคลกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป 2.ร่วมกันเป็นธุระจัดหาล่อไปหรือชักพาไปซึ่งบุลคลใคเพื่อให้บุคลนั้นกระทำการค้าประเวณี ไม่ว่าการกระทำต่างๆอันประกอบด้วยความผิด นั้นจะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักรโดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ หรือข่มขืนด้วยประการใดๆ 3.ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่นเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไป เพื่อการอนาจารบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี โดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการใดๆ 

4.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย หรือขู่เข็ญด้วยประการใดๆ เพื่อข่มขืนใจผู้อื่นให้การทำการค้าประเวณี พาหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรโดยใช้อุบายหลอกลวงและข่มขืนใจผู้อื่น กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวจะเกิดอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพโดยร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น และ5. ร่วมกันบังคับขู่เข็ญใช้ชักจูงยุยงส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กกระทำการใดเพื่อแสวงหาประโยชน์ทางการค้า อันมีลักษณะเป็นการขัดขวางต่อการเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของเด็ก ไม่ว่าเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ประกันตัว และจะทำการสอบสวนต่อ ก่อนจะแถลงข่าวรายละเอียดในเวลา 13.00 น.ของวันนี้