แม่ค้าร้ายอาหารตามสั่งเครียดหนัก ขายของรายได้ไม่ไดี แอบซดเบียร์ย้อมใจ ก่อนหนีผัวและลูกไปโดดแม่น้ำเจ้าพระยาดับอนาถ
เมื่อวันที่ 23 พ.ค. พ.ต.ท.วีรวุฒิ มโนรส พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.บางคอแหลม รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตลอยมาติดท่าน้ำบริเวณด้านหลังวัดปริวาศ ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุอยู่ริมตลิ่งซึ่งเป็นท่าน้ำให้อาหารปลาด้านหลังวัดพบศพ นางรัชนก หรือหนิง กลิ่นจันทร์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102/38 ซอยจัดสรรเอื้อวัฒนสกุล แขวงและเขตสวนหลวง กทม. ลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา สภาพหงายหน้า สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีส้ม นุ่งกระโปรงสั้นผ้ายีนส์ เมื่อนำศพขึ้นมาตรวจสอบบนท่าน้ำไม่พบบาดแผลตามร่างกาย ที่คอสวมสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง 1 เส้น ในกระเป๋ากระโปรงพบเงินสด จำนวน 14,000 บาท และบุหรี่ยี่ห้อกรองทิพย์ อีก 1 ซอง เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 6 ชั่วโมง จึงส่งมอบศพให้แผนกนิติเวช รพ.ศิริราช ทำการผ่าชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้ง
จากนั้นนายสมศักดิ์ หรือปุ๊ แซ่หยิบ อายุ 40 ปี และ ด.ช.ชนสรร หรือน้องมาร์ค กลิ่นจันทร์ อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนขจรโรจน์วิทยา
ซึ่งเป็นสามีและบุตรชาย ของผู้ตายได้เดินทางมาดูศพ โดยนายสมศักดิ์ กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า นางรัชนก เป็นเจ้าของร้านอาหารตามสั่งชื่อร้านอ้วนอิ่ม ภายในซอยสุขุมวิท 1 โดยมีตนเป็นพ่อครัวช่วยทำอาหารให้ เดิมธุรกิจดังกล่าวเป็นของพ่อตาภายหลังพ่อตาเสียชีวิตจึงมอบให้ นางรัชนก รับช่วงต่อ ปรากฏว่าทำรายได้ไม่ดีเลยทำให้ นางรัชนก เกิดความเครียดต้องดื่มเบียร์แก้กลุ้มทุกวัน
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ตนเห็นภรรยาสภาพร่างกายเริ่มแย่จึงตัดสินใจชักชวนให้เลิกขายอาหารตามสั่งเพราะกลัวจะยิ่งขาดทุน และตักเตือนขอให้เลิกดื่มเหล้าดื่มเบียร์ กลับยิ่งทำให้นางรัชนกเครียด จนเกิดมีปากเสียงกับตนอีก กระทั่ง 4-5 วันก่อน ก็เคยโบกรถแท็กซี่ขึ้นไปบนกลางสะพานพระราม 9 ในช่วงเช้ามืด พยายามกระโดดน้ำตายมาครั้งหนึ่งแล้วแต่ รปภ.ช่วยเอาไว้ได้ กระทั่งตอนตี 5 วันนี้ตนและนางรัชนก ช่วยกันปิดร้านขับรถยนต์มุ่งหน้ากลับบ้านย่านสุขสวัสดิ์ซอย 26 คนละคัน โดยตนขับตามมาห่างๆ เพราะเห็นเจ้าตัวดื่มเบียร์ออกมาด้วย แต่ขณะที่กำลังกลับรถ นางรัชนก ได้แวะจอดตรงข้างทางขึ้นด่วน กม.9 (วัดสน) แล้วหายตัวไป ตนพยายามจอดรถตามหาแล้วแต่ไม่ทัน โดยเชื่อว่าภรรยาน่าจะคิดสั้นอีกเนื่องจากมีจดหมายลาตายทิ้งไว้ในรถ จึงเข้าแจ้งความกับร้อยเวร สน.บางคอแหลม และประกาศตามหาตามสถานีวิทยุ จนมีผู้ติดต่อกลับไปว่าพบศพผู้เสียชีวิตรูปพรรณตรงกันลอยมาติดที่ท่าน้ำวัดปริวาศ เลยรีบไปรับลูกชายจากโรงเรียนมาดูศพแม่ครั้งสุดท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ ด.ช.ชนสรร ลูกชายผู้ตายเห็นร่างแม่ถูกนำขึ้นบนฝั่ง ก็ได้โผเข้ากอดคอกันร้องไห้กับผู้เป็นพ่อด้วยความโศกเศร้า
โดย ด.ช.ชนสรร บอกกับร่างแม่เป็นครั้งสุดท้ายว่า “มาร์คจะเป็นคนดี จะต่อสู้ชีวิตให้ได้อย่างที่แม่สอน แม่หลับให้สบายนะ หลังจากนี้มาร์คจะบวชเพื่อทดแทนคุณแม่” สร้างความสลดหดหู่ใจให้กับพระสงฆ์และชาวบ้านที่มาทำบุญไหว้พระ ให้อาหารปลา ที่วัดปริวาศ อย่างมาก