ภาพจากข่าวสดเวลา 03.00 น. วันที่ 23 พ.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พ.ต.ท.บรรเทิง จันทร์ฉาย พนักงานสอบสวน สภ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายบุกปล้นร้านลาบเป็ดเวียงจันทร์ ถูกเจ้าของร้านยิงเสียชีวิต ริมถนนสายบางปะหัน-ปทุมธานี ม.3 ต.ขวัญเมือง อ.บางปะหัน จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเหนิด รองผบก. พ.ต.องภูวดิท ชนะคชภัทร์ รองผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.วชิรพงษ์ แก้วดวง ผกก. พ.ต.ท.ภัทรภัทร นุชยวง รองผกก. สส.สภ.บางปะหัน แพทย์เวร รพ.บางปะหัน มูลนิธิพุทไธสวรรย์ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบนายศิริชัย เปรมศิริ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/9 ม.1 ต.บ้านลี่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ยืนถืออาวุธปืนขนาด.38 ไทยประดิษฐ์ ด้วยอาการตกใจ รอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในร้าน สะพานทางเข้าร้านพบศพนายจำลอง สาสุข อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/1 ม.3 ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นอนหงายเสียชีวิต สวมหมวกไหมพรหม ใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีดำ กางเกงขาสั้นลายพรางทหาร สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านขวา ใต้สะพานพบอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ตกอยู่ 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน ภายในร้านถูกคนร้ายรื้อค้นข้าวของกระจัดกระจาย คนในร้านซึ่งเป็นเด็กและผู้หญิงยังอยู่ในอาการตกใจรวม 7 คน
สอบสวนนายศิริชัย หลานชายเจ้าของร้าน กล่าวว่า ตนพร้อมกับญาติอาศัยอยู่ในร้านด้วยกัน 8 คน ได้มีคนร้ายจำนวน 4 คน ปีนเข้ามาในร้าน อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจค้นใช้สายไฟจับตนเองและนายมนตรี รุ่งจำรัส อายุ 50 ปี และนางบุญศรี รุ่งจำรัส อายุ 49 ปี น้าของตนเองและเป็นเจ้าของร้านมัดเอาไว้ และกระทืบตามร่างกายหลายครั้ง แล้วคนร้ายได้เข้าไปในห้องนอนซึ่งมีหลานสาวและหลานสะใภ้อยู่บังคับให้อยู่เฉยๆ อย่าส่งเสียง รื้อค้นเอาเงินสดจำนวน 20,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท โทรศัพท์มือ 3 เครื่อง สุราอีกจำนวน 2 ขวด
ระหว่างนั้นตนได้พยายามดิ้นจนสายไฟที่รัดข้อมืออยู่หลุดออก จึงได้หยิบอาวุธปืนที่อยู่หัวนอน ยิงคนร้ายจนล้มลง คนร้ายที่เหลือกระโดดหลบหนีตนเองได้ยิงไล่ตามไปเชื่อว่าน่าจะถูกคนร้าย ได้ขับขี่รถจยย.หลบหนีไป ก่อนหน้านี้หลานสะใภ้ของตนเองเคยถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้แล้วกระชากสร้อยคอทองคำไปที่บริเวณหน้าร้านมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงได้หาอาวุธปืนมาเก็บไว้เพื่อป้องกันตัว ช่วงที่ถูกคนร้ายจับมัดอยู่คิดว่าญาติของตนที่อยู่ในร้านจะถูกฆ่าตายกันทั้งหมด จึงพยายามดิ้นรนแกะสายไฟออกแล้วต่อสู้กับคนร้ายเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืนกระบอกเดียวซึ่งเป็นลูกซองไทยประดิษฐ์ด้วย
เจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัดจับกลุ่มคนร้ายและให้ตรวจสอบตามโรงพยาบาลต่างๆ ว่ามีคนเจ็บถูกยิงไปรักษาตัวหรือไม่แต่ยังไม่พบตัว ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่ได้มีคนโทรเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือคนร้ายที่เสียชีวิตว่าเป็นหลานชายถูกยิงได้รับบาดเจ็บให้มารับด้วย เมื่อรู้ว่าคนที่รับสายไม่ใช่ผู้ตายคนร้ายได้วางสายไปเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่เหลือต่อไป สำหรับนายจำลอง หรือ แป๊ะสวนพริก คนร้ายที่ถูกยิงเสียชีวิต ก่อนหน้านี้เคยต้องโทษในคดีปล้นทรัพย์เพิ่งจะพ้นโทษมา ก่อเหตุอีกครั้ง
พบนายศิริชัย เปรมศิริ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/9 ม.1 ต.บ้านลี่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ยืนถืออาวุธปืนขนาด.38 ไทยประดิษฐ์ ด้วยอาการตกใจ รอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในร้าน สะพานทางเข้าร้านพบศพนายจำลอง สาสุข อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/1 ม.3 ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นอนหงายเสียชีวิต สวมหมวกไหมพรหม ใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีดำ กางเกงขาสั้นลายพรางทหาร สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านขวา ใต้สะพานพบอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ตกอยู่ 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน ภายในร้านถูกคนร้ายรื้อค้นข้าวของกระจัดกระจาย คนในร้านซึ่งเป็นเด็กและผู้หญิงยังอยู่ในอาการตกใจรวม 7 คน
สอบสวนนายศิริชัย หลานชายเจ้าของร้าน กล่าวว่า ตนพร้อมกับญาติอาศัยอยู่ในร้านด้วยกัน 8 คน ได้มีคนร้ายจำนวน 4 คน ปีนเข้ามาในร้าน อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจค้นใช้สายไฟจับตนเองและนายมนตรี รุ่งจำรัส อายุ 50 ปี และนางบุญศรี รุ่งจำรัส อายุ 49 ปี น้าของตนเองและเป็นเจ้าของร้านมัดเอาไว้ และกระทืบตามร่างกายหลายครั้ง แล้วคนร้ายได้เข้าไปในห้องนอนซึ่งมีหลานสาวและหลานสะใภ้อยู่บังคับให้อยู่เฉยๆ อย่าส่งเสียง รื้อค้นเอาเงินสดจำนวน 20,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท โทรศัพท์มือ 3 เครื่อง สุราอีกจำนวน 2 ขวด
ระหว่างนั้นตนได้พยายามดิ้นจนสายไฟที่รัดข้อมืออยู่หลุดออก จึงได้หยิบอาวุธปืนที่อยู่หัวนอน ยิงคนร้ายจนล้มลง คนร้ายที่เหลือกระโดดหลบหนีตนเองได้ยิงไล่ตามไปเชื่อว่าน่าจะถูกคนร้าย ได้ขับขี่รถจยย.หลบหนีไป ก่อนหน้านี้หลานสะใภ้ของตนเองเคยถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้แล้วกระชากสร้อยคอทองคำไปที่บริเวณหน้าร้านมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงได้หาอาวุธปืนมาเก็บไว้เพื่อป้องกันตัว ช่วงที่ถูกคนร้ายจับมัดอยู่คิดว่าญาติของตนที่อยู่ในร้านจะถูกฆ่าตายกันทั้งหมด จึงพยายามดิ้นรนแกะสายไฟออกแล้วต่อสู้กับคนร้ายเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืนกระบอกเดียวซึ่งเป็นลูกซองไทยประดิษฐ์ด้วย
เจ้าหน้าที่ได้วิทยุสกัดจับกลุ่มคนร้ายและให้ตรวจสอบตามโรงพยาบาลต่างๆ ว่ามีคนเจ็บถูกยิงไปรักษาตัวหรือไม่แต่ยังไม่พบตัว ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่ได้มีคนโทรเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือคนร้ายที่เสียชีวิตว่าเป็นหลานชายถูกยิงได้รับบาดเจ็บให้มารับด้วย เมื่อรู้ว่าคนที่รับสายไม่ใช่ผู้ตายคนร้ายได้วางสายไปเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่เหลือต่อไป สำหรับนายจำลอง หรือ แป๊ะสวนพริก คนร้ายที่ถูกยิงเสียชีวิต ก่อนหน้านี้เคยต้องโทษในคดีปล้นทรัพย์เพิ่งจะพ้นโทษมา ก่อเหตุอีกครั้ง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
