เข้ม!ตั้งด่านจับเมาแล้วขับ24ชม.

21 พ.ค. 56  พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) รับผิดชอบงานด้านการจราจร รายงานผลการตั้งด่านตรวจจับผู้ขับขี่เมาแล้วขับในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาว่า จากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจราจร สน.ต่างๆ ทั่วกทม.มีรายงานผลการจับกุมผู้ขับขี่เมาแล้วขับเข้ามาอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมากทุกวันทุกคืน ไม่เว้นแม้แต่วันธรรมดา ยิ่งคืนวันศุกร์-เสาร์ ด้วยแล้ว มีผลการจับกุมมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลก ว่าเช้ามืดวันอังคาร ซึ่งเป็นวันทำงานปกติ ขณะที่คนในสังคมต่างเตรียมตัวออกเดินทางไปทำภารกิจ แต่มีคนบางกลุ่มถูกจับกุมอยู่ในห้องขัง เพื่อรอส่งฟ้องศาลในช่วงเช้าวันเดียวกัน เนื่องจากเมาแล้วมาขับขี่รถบนท้องถนน

                         
รอง ผบช.น.กล่าวต่อว่า ตำรวจจราจรในพื้นที่ กทม.จะหมุนเวียนกันตั้งด่านตรวจวัดปริมาณในผู้ขับขี่อย่างต่อเนื่องทุกวัน

ปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมงเหมือนร้านสะดวกซื้อ 7-11 โดยเฉพาะกลางคืนนั้น มีการตั้งด่านตรวจจับคนเมาทุกคืน และมีผลการจับกุมคนเมาได้ทุกคืนแบบไม่มีวันหยุดเช่นกัน ทุกวันนี้ในสังคมไทยยังมีคนเมาแล้วออกมาขับขี่รถตามท้องถนนทุกวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะกวดขันจับกุมต่อไปไม่มีวันหยุด เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน โดยทุกเช้ามืดตำรวจจราจรที่ลงพื้นที่ตั้งด่านตรวจจะส่งผลการทำงานมาให้ทราบผ่านระบบ LINE ฉะนั้นจะมีภาพผู้ขับขี่เมาแล้วขับที่ถูกจับดำเนินคดีเป็นหลักฐานในชั้นศาลด้วย

                         
ล่าสุดเมื่อ 2 วันก่อน มีรายงานการจับกุมที่น่าสนใจ คือ ตำรวจจราจร สน.พระโขนง ตั้งด่านตรวจวัดคนเมาแล้วขับ

พบเด็กวัยรุ่นอายุ 16 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาจึงขอตรวจค้นพบกัญชาซุกซ่อนในกระเป๋ากางเกง จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ส่วนอีกรายจับกุมผู้ขับขี่เมาแล้วขับแหกด่านตรวจวัดความเมาบนถนนสุขุมวิท ปากซอยสุขุมวิท 71 หน้าตึกยูเอ็มทาวเวอร์ เรื่องนี้คงต้องส่งให้ทางครอบครัวข่าว เพราะจากกล้องของตำรวจจราจรที่บันทึกภาพได้ขณะปฏิบัติงานนั้นพบ นายชูเกียรติ ฉายแก้ว อายุ 40 ปี ขับรถยนต์แหกด่านตรวจวัดความเมาที่ถนนสุขุมวิท 71 ตำรวจจราจรจึงติดตามไล่ล่าจับกุมตัวไว้ได้พร้อมอ้างตัวว่า ทำงานอยู่สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง

                         
เมื่อเป่าแอลกฮอล์วัดได้ 61 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีและพบว่า
 
ช่วงระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังควบคุมตัวนายชูเกียรติ อยู่นั้น นายชูเกียรติ ได้ถอดเสื้อเชิ้ตที่สวมใส่ออกแล้วหยิบเสื้อโปโลมีโลโก้ของสถานีโทรทัศน์ที่ตนเองสังกัดมาใส่ โดยไม่ทราบสาเหตุว่าทำเช่นนั้นเพราะต้องการอะไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้สนใจกับการกล่าวอ้างของนายชูเกียรติ แต่อย่างใด พร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดและนำตัวเข้าห้องขังในคืนนั้น พร้อมส่งฟ้องศาลในช่วงเช้าแล้ว

                         
รอง ผบช.น. ระบุว่า น่าชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.พระโขนง ในการปฏิบัติหน้าที่

โดยไม่เลือกปฏิบัติและยึดมั่นในกฎระเบียบข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด จึงอยากฝากเตือนว่า ไม่ว่าท่านจะเป็นใครมาจากไหน จะเป็นนักข่าว หรือคนมีสี หรือใครๆ หากกระทำความผิดเมาแล้วขับจะถูกจับดำดำเนินคดีทุกรายไม่มีละเว้น เพราะปัจจุบันในสังคมไทยมีผู้ขับขี่เมาแล้วขับเป็นจำนวนมาก หากไม่มีการตรวจจับ จะนำมาซึ่งอุบัติเหตุบนท้องถนน และเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่คนอื่นๆ