อาญาเถื่อนคนเมืองหลวง ขี่จยย.ล่าหัวนศ.ดับคาถนน

อาญาเถื่อนคนเมืองหลวง ขี่จยย.ล่าหัวนศ.ดับคาถนน

อาญาเถื่อนคนเมืองหลวง มือปืนไล่ล่านักศึกษาหนุ่ม ขี่ จยย.ไม่ติดแผ่นทะเบียนตามประกบยิงเหยื่อเป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเหมือนในหนัง ท้ายสุดไม่รอด กระสุนเจาะหลังทะลวงอกดับคาถนน


พ.ต.ท.ประสงค์ ชำนาญศิลป์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.ภาษีเจริญ รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณเกาะกลางถนนใต้แนวก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ด้านหน้าชุมสายโทรศัพท์บางแค ถนนเพชรเกษมขาเข้า แขวงปากคลอง เขตภาษีเจริญ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ศักดา ดามาพงศ์ ผกก.สน.ภาษีเจริญ พ.ต.ท.ศิริชาติ จันทร์พรมมา สว.สส. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นลานวางวัสดุก่อสร้างใต้ตอหม้อรถไฟฟ้าสถานีบางหว้า เจ้าหน้าที่พบศพ นายกฤษฎา แสนใจงาม อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม อยู่บ้านเลขที่ 164 ถนนเพชรเกษมซอย 1 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม.

นอนหงายจมกองเลือดในสภาพสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้า นุ่งกางเกงยีนขายาวสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.เข้าที่สะบักหลังด้านขวาทะลุออกหน้าอกข้างซ้าย 1 นัด ห่างจากศพประมาณ 5 เมตร พบรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีขาวดำ หมายทะเบียน รษข 418 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของผู้ตายพลิกคว่ำสภาพพังยับเยิน นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 1 ปลอก และห่างจากจุดที่ผู้ตายเสียชีวิตประมาณ 20 เมตร ยังพบปลอกกระสุนขนาดเดียวกันอีกจำนวน 3 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน


จากการสอบสวน น.ส.กชพรรณ เย็นวนิช อายุ 32 ปี อาชีพพนักงานบาร์ญี่ปุ่นย่านสีลม ซึ่งเป็นแฟนสาวผู้ตาย กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า

คบหากับนายกฤษฎา ผู้ตายมาได้ประมาณ 3-4 เดือน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขับรถ จยย.ไปหาตนที่คอนโดมิเนียมย่านตลาดบางแค จากนั้นจึงชักชวนกันลงจากห้องมุ่งหน้าจะไปกินข้าวต้มที่ถนนสุขาภิบาล 1 หลังตลาดบางแค โดยผู้ตายขอขับรถ จยย.นำหน้ารถเก๋งบีเอ็มดับบลิว รุ่น 323 ไอ สีดำ หมายเลขทะเบียน วต 2973 กรุงเทพมหานคร ของตนไปเนื่องจากหลังกินข้าวเสร็จก็จะแยกย้ายกันกลับบ้านพัก


น.ส.กชพรรณ ให้การอีกว่า กระทั่งไปถึงบริเวณหน้าร้านข้าวต้มตนได้จอดรถและเกิดอาการคลื่นไส้เพราะวันนี้ดื่มสุราจากที่ทำงานมาเล็กน้อย

จึงก้มลงอาเจียนริมบาทวิถีข้างๆ รถ โดยมีผู้ตายทำหน้าคอยลูบหลังให้ จากนั้นนั้นตนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2-3 นัด ทำให้ผู้ตายตกใจวิ่งหนีเข้าไปหลบในร้านข้าวต้ม รอจนกระทั่งมีตำรวจสายตรวจของ สน.เพชรเกษม เดินทางมาถึง ก็ได้ยินผู้ตายเล่าให้ตำรวจฟังว่า ขณะกำลังลูบหลังให้ตนอยู่นั้นมีคนร้าย 2 คน พยามยามเข้ามาชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ที่ผู้ตายสวมใส่อยู่ แต่เกิดการขัดขืนทำให้คนร้ายชักอาวุธปืนออกมายิงจนต้องวิ่งหนีตายเข้าไปหลบในร้านข้าวต้ม


“พอสายตรวจ สน.เพชรเกษม กลับแล้ว จึงแนะนำให้แฟนรีบไปแจ้งความที่โรงพัก แต่บ่ายเบี่ยงอ้างว่ายังอยู่ในอาการตกใจไม่หายและกลัวว่าแม่ซึ่งรออยู่ที่บ้านจะบ่น จึงขอขับรถ จยย.ล่วงหน้ากลับบ้านก่อน กระทั่งดิฉันขับรถเก๋งถึงคอนโดมิเนียมแล้วก็ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหาแฟนเพื่อสอบถามว่าถึงบ้านหรือยัง แต่กลับไม่มีใครรับสายด้วยความห่วงใย เลยตัดสินใจขับรถตามมาดูถึงรู้ว่าถูกยิงจนเสียชีวิตไปแล้ว” น.ส.กชพรรณ กล่าว


ด้าน นายต้น (นามสมมุติ) อายุ 52 ปี อาชีพขับรถ จยย.รับจ้างวินปากซอยเพชรเกษม 23 ซึ่งเห็นเหตุการณ์เล่าว่า

ขณะที่ตนกำลังขับรถ จยย.จากแยกเพชรราชพฤกษ์ กำลังมุ่งหน้าไปทางชุมสายโทรศัพท์บางแค สังเกตเห็นผู้ตายเร่งเครื่องรถ จยย.หลบหนีการไล่ล่าของคนร้าย เป็นชายวัยรุ่นรูปร่างผอมสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ ขับขี่รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ๊กสีฟ้าขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พาคนร้ายชายอีกคนรูปร่างท้วมสวมเสื้อลายสก็อตแขนยาวสีฟ้าเป็นคนซ้อนท้ายมาด้วย

จากนั้นรถทั้ง 2 คันก็แซงรถตนไป ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นติดๆ กัน จำนวน 4-5 นัด พอตนขับตามมาถึงก็เห็นผู้ตายถูกยิงจนล้มคว่ำอยู่กลางถนนแล้ว


ขณะที่ พ.ต.อ.ศักดา กล่าวว่า เชื่อว่ามือปืนน่าจะไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์สินของผู้ตายเพียงอย่างเดียว และมือปืนคงวางแผนมาแล้วเป็นอย่างดี โดยหลังจากนี้จะเชิญตัวแฟนสาวพร้อมญาติๆ ของผู้ตายไปสอบปากคำที่โรงพักอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาชนวนเหตุการตายที่แท้จริง ส่วนแนวทางการติดตามจับกุมตัวคนร้ายตนได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งแกะรอยจากกล้องวงจรปิดบนถนนเพชรเกษมตั้งแต่ตลาดบางแค จนถึงจุดเกิดเหตุซึ่งมีระยะทางเกือบ 5 กิโลเมตรแล้ว เชื่อว่าจะมีกล้องสามารถบันทึกภาพการไล่ล่าได้อย่างแน่นอน


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์