วันนี้ (8 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วย ผบ.ตร.
กล่าวถึงกรณี ปรากฎคลิปภาพ ด.ต.นิพนธ์ โศรกหาย ผบ.หมู่ จร. สน.บางนา ตั้งด่านเรียกรับส่วยเผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทูป ว่า กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายการจราจร และมีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ขับขี่เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ในทางกฎหมายถือว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความผิดในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ มีโทษปรับตั้งแต่ 2,000-4,000 บาท และจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีโทษปรับ 2,000-20,000 บาท หรือจำคุก 1-10 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ให้เงินหรือผลประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่มีความผิดในข้อหาให้ทรัพย์สินแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ อันมิชอบด้วยหน้าที่ หรือติดสอนบนพนักงาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ กล่าวอีกว่า กรณีของ ด.ต.นิพนธ์ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้เพิกเฉยหรือนิ่งนอนใจ
แต่ได้สั่งให้ดำเนินการตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายแล้ว โดยทางบก.น.5 ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ด.ต.นิพนธ์ และออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว เนื่องจากตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า การกระทำดังกล่าวมีมูลความผิดทางวินัยเกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ และประพฤติหรือพฤติการณ์อันไม่น่าไว้วางใจ และให้ทางท้องที่ไปขยายผลเพิ่มเติมในส่วนของผู้ที่ติดสินบนเจ้าหน้าที่ด้วย
นอกจากนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ยังได้กำชับให้ดำเนินการเกี่ยวกับการเรียกรับผลประโยชน์อย่างเคร่งครัด
โดยให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นสอดส่องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ใกล้ชิด และหากพบเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่าฝืนโดยมีหลักฐานยืนยันว่ามีพฤติกรรมเบี่ยงเบนในลักษณะเรียกรับผลประโยชน์ ให้ผู้บังคับบัญชารีบดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด หากปรากฏเป็นความผิดชัดเจนให้ดำเนินการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงทุกกรณี และดำเนินการทางปกครองควบคู่กันไปด้วย.