เปิดโปงแผนร้าย โจรกรรม เศียร ´มหาพรหม´

เปิดโปงแผนร้าย โจรกรรม เศียร ´มหาพรหม´

ความคืบหน้าการบูรณะปฏิสังขรณ์ ท่านท้าวมหาพรหม เอราวัณ ภายหลังจากถูกหนุ่มวิกลจริต บุกทุบทำลายจนย่อยยับ เมื่อเที่ยงวันที่ 24 มี.ค. นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรีและรักษาการ รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม เพื่อบูรณะท้าวมหาพรหม ร่วมกับคณะกรรมการประสานงาน บูรณะปฏิสังขรณ์ท้าวมหาพรหม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ว่า แนวทางการบูรณะปฏิสังขรณ์พระพรหม จะเป็นการหล่อรูป ท้าวมหาพรหมขึ้นมาใหม่ ใช้นวโลหะ สำหรับ ชิ้นส่วนองค์เดิม ช่างจากกรมศิลปากรกำลังพิจารณาเทคนิคอยู่ว่า จะทำอย่างไรที่จะอัญเชิญพระเศียร ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ไปไว้ในองค์ใหม่ในสภาพเดิมได้ โดยไม่กระทบต่อเทวลักษณะ เพราะพระเศียรมีขนาดใหญ่พอสมควร หากไม่สามารถอัญเชิญไว้รวมกับองค์ใหม่ได้ ก็มีผู้เสนอว่า ให้อัญเชิญพระเศียรไว้บนยอดของศาลแทน จึงตกลงกันว่า ในวันที่ 27 มี.ค.นี้ เวลา 15.00 น. จะประชุมคณะกรรมการฯ ที่สำนักช่างสิบหมู่ ถนนพุทธมณฑล สาย 5 อีกครั้งหนึ่ง โดยให้ช่างออกแบบและประติมากรลองทำแบบให้ดูว่า หากบรรจุพระเศียรในพระอุระจะกระทบต่อเทวลักษณะอย่างไร โดยให้ผู้รู้ไปพิจารณาร่วมกัน สำหรับชิ้นส่วนที่หักเป็นชิ้นส่วนย่อยๆจะบดละเอียดตามหลักความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ เพื่อให้เกิดพลังรวมกัน ส่วนชิ้นส่วนขนาดใหญ่ เช่นพระกร ศาสตราวุธ ให้คงไว้เช่นเดิม ไม่บดละเอียด แล้วเก็บรวมกันไว้ที่ใต้ฐาน

นายสุรเกียรติ์กล่าวด้วยว่า สำหรับการรักษาความปลอดภัยทั้งในปัจจุบันและในอนาคตนั้น ได้ประสานไปยัง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. ให้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่มาดูแลสถานที่ที่เก็บรักษาชิ้นส่วนต่างๆของท้าวมหาพรหม ซึ่งขณะนี้เก็บรักษาไว้ที่สำนักช่างสิบหมู่ รวมทั้งได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และอธิบดีกรมศิลปากรเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ในช่วง 2 เดือนนี้ ขณะที่ทางมูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหม ก็ได้จ้างเวรยามดูแลเพิ่มตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับงบประมาณในการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งนี้ มูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหมโรงแรมเอราวัณ จะรับผิดชอบเองทั้งหมด แต่หากประชาชน ต้องการร่วมบริจาค ก็สามารถบริจาคได้โดยตรงที่มูลนิธิฯ ต่างจังหวัดผ่านทางวัฒนธรรมจังหวัด ขณะที่ต่างประเทศผ่านสถานทูตและกงสุลใหญ่ โดยขอรับบริจาคเป็นตัวเงินแทนส่วนผสมนวโลหะ เพราะยากที่จะรวบรวม และหากได้รับบริจาคมามาก ก็ไม่ทราบว่าจะนำไปใช้ประโยชน์ อะไรต่อไป

รองนายกรัฐมนตรี รักษาการ รมว.วัฒนธรรม กล่าวต่อว่า ในส่วนของพิธีปฏิบัติ ในการบูรณะปฏิสังขรณ์ ที่ประชุมเห็นด้วย ให้มีทั้งพิธีสงฆ์และพิธีพราหมณ์ร่วมกัน เพื่อความเป็นสิริมงคล 6 ขั้นตอน คือ 1. พิธีบวงสรวงขอขมา และขออนุญาตในการบูรณะปฏิสังขรณ์ ซึ่งจัดทำไปแล้ว 2. การจัดงานทั้งพิธีสงฆ์ และพิธีพราหมณ์ ที่บริเวณศาลท้าวมหาพรหม ภายหลังนำภาพถ่าย ท้าวมหาพรหมไปประดิษฐานทั้ง 4 ด้าน เพื่อบวงสรวงบอกกล่าวและอุทิศส่วนกุศล ให้แก่บรรพบุรุษผู้จัดสร้างศาล โดยเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมด้วย 3. ในการเปิดฐานเพื่อบรรจุมวลสารหรือชิ้นส่วนต่างๆ จะมีพิธีพราหมณ์เพื่อบอกกล่าวบูชาเทพยดาที่ปกปักรักษา

4. พิธีหล่อ จะมีทั้งพิธีสงฆ์และพิธีพราหมณ์เช่นกัน โดยทางคณะกรรมการฯร่วมกับมูลนิธิฯ จะจัดทำหนังสือกราบบังคมทูลเชิญ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเสด็จพระราชดำเนิน เป็นองค์ประธาน ในการทำพิธีหล่อองค์ท้าวมหาพรหม 5.เมื่อดำเนินการ หล่อองค์ท้าวมหาพรหมเรียบร้อยแล้ว จะกราบบังคมทูลเชิญ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือผู้แทนพระองค์ มาเป็นประธานในงานเทวาภิเษก หรือพิธีมังคลาภิเษก เพื่อให้เกิดพลังและความศักดิ์สิทธิ์ โดยจะมีทั้งพิธีสงฆ์และพราหมณ์เช่นกัน 6. พิธีสมโภชองค์ท่านท้าวมหาพรหม เพื่อบอกกล่าวประชาชนว่า จะนำองค์ท้าวมหาพรหมไปประดิษฐานไว้ ณ ที่เดิม ให้ประชาชนทั้งในและต่างประเทศเข้าร่วมพิธีได้ และอาจต้องขยายพื้นที่จัดงาน ปิดถนนบางส่วนในบริเวณถนนเพลินจิต และถนนราชประสงค์

ด้านนายอารักษ์ สังหิตกุล อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า สำหรับกำหนดเวลาที่จะทำพิธีหล่อและสมโภชท้าวมหาพรหมองค์ใหม่นั้น จะเป็นเมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาในวันที่ 27 มี.ค.นี้ โดยจะพยายามทำให้เสร็จภายในกำหนดเวลา 2 เดือน กรมศิลปากรได้เตรียมแบบให้คณะกรรมการฯพิจารณาว่า หากจะนำพระเศียรของท้าวมหาพรมองค์เก่าไปบรรจุไว้ในองค์เดิมได้หรือไม่อย่างไร ไม่ว่าจะไว้ในส่วนพระอุระ (หน้าอก) หรือพระนาภี (ท้อง) หรือหากทำไม่ได้ก็ได้เตรียมออกแบบสำหรับสร้างซุ้มครอบ แล้วนำพระเศียรไปประดิษฐานไว้ใต้โดมยอดของศาล ซึ่งจะปลอดภัยและดีกว่านำไปใส่ไว้ในองค์เดิม เพราะถือว่าเอาไว้ในที่สูงและขนาดของพระเศียรก็มีขนาดใหญ่ ไม่ง่ายที่จะนำไปบรรจุไว้ในองค์ใหม่ ส่วนตัวคิดว่าควรนำพระเศียรเดิมไปประดิษฐานไว้ใต้โดมน่าจะเป็นวิธีที่เหมาะสมกว่า สามารถรักษาพระเศียรเดิมไว้ได้ ในสภาพที่สมบูรณ์

อธิบดีกรมศิลปากรกล่าวด้วยว่า การรักษาพระเศียรเอาไว้อย่างเดียวโดยไม่บดป่นเป็นผง เหมือนกับชิ้นส่วนอื่นๆที่แตกหักเสียหาย เพราะตามคติความเชื่อของชาวพุทธ หากเป็นวัตถุที่แทนของสูงไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูป หรือวัตถุที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์จะไม่ให้ทำลาย เพราะจะกระทบกระเทือนกับความรู้สึกของคนไทยทั่วไป นอกจากนี้ ในเรื่องของการบริจาคเงินสมทบการปฏิสังขรณ์ ได้รับการประสานงานทางโทรศัพท์จากภาคเอกชนของไต้หวัน แจ้งว่ามีความประสงค์จะร่วมบริจาคเป็นจำนวนเงินถึง 100 ล้านบาท ซึ่งได้แจ้งให้ทางมูลนิธิฯเป็นผู้ รับผิดชอบ โดยจะไม่มีการบริจาคผ่านทางรัฐบาล เพื่อไม่ให้กระทบต่อนโยบายด้านการต่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการฯครั้งนี้ ได้มีการหยิบยกการรักษาความปลอดภัยศาลท้าวมหาพรหมมาหารือ โดยนายปรีชา โลหะสุนทร ที่ปรึกษานายสุรเกียรติ์ หนึ่งในคณะกรรมการฯได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้ได้รับรายงานข่าวว่า พระเศียรองค์ท้าวมหาพรหมองค์เดิมกำลังตกเป็นเป้าหมายของแก๊งโจรกรรม โดยมีคำสั่งซื้อมาจากต่างประเทศ เนื่องจากเห็นว่าท้าวมหาพรหมโรงแรมเอราวัณมีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพนับถือบูชาของประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเป็นอย่างมาก นายสุรเกียรติ์จึงได้สั่งกำชับให้มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยประสานงานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งแจ้งให้ทางมูลนิธิฯจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษอีกทางหนึ่งด้วย

ต่อมาเวลา 13.15 น. นายสุรเกียรติ์ให้สัมภาษณ์เพิ่ม เติมถึงกระแสข่าวมีการวางแผน โจรกรรมเศียรท้าวมหาพรหม ว่า เรื่องนี้ก็มีกระแสข่าว จากบางฝ่ายที่แจ้งมาให้ ทราบ ซึ่งก็ไม่ประมาท เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ได้ ประสานขอให้สำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ จัดกำลังตำรวจมาดูแล รักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้นแล้ว รวมทั้งทางมูลนิธิฯ ก็จะจ้างเจ้าหน้าที่มาดูแลเป็นพิเศษ ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการข่าวเป็นคำสั่งซื้อ ของพ่อค้าวัตถุโบราณจากประเทศใด นายสุรเกียรติ์กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้มีการระบุชื่อประเทศ อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ ยังไม่ได้มีการขึ้นทะเบียน เป็นโบราณสถานหรือโบราณวัตถุกับกรมศิลปากร เนื่องจากจะมีอายุครบ 50 ปีในเดือน พ.ย.49 จึงจะเข้าเงื่อนไขที่สามารถขึ้นทะเบียนได้

ทางด้าน พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผกก.สน. ลุมพินี เปิดเผยว่า ตอนนี้รอผลการผ่าพิสูจน์ศพนายธนากร ภักดีผล จากแพทย์สถาบันนิติเวชฯ และสอบพยานเพิ่มเติม เพราะสอบไปได้เพียง 5-6 ปาก แต่ไม่ค่อยเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี นอกจากนี้ พยานไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูล อ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นเป็นส่วนมาก ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน สอบแพทย์ผู้รักษาอาการทางจิต ของผู้ตายตามที่ผู้ป่วยเคยไปรักษา เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี ผู้สื่อข่าวถามว่าครั้งแรกที่รับข้อมูลว่ามีการรุมประชาทัณฑ์มีผู้ก่อเหตุกี่ คน ผกก.สน.ลุมพินีตอบว่า ในเบื้องต้นทราบว่ามีทั้งหมด 5-6 คน แต่เมื่อสอบพยานแล้ว ต่างอ้างว่าจำไม่ได้ และยังพูดติดตลกว่าถูกช้างกระทืบตาย เหมือนไม่ให้ความร่วมมือ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงจะสามารถสรุปสำนวนส่งอัยการพิจารณาได้

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์