เวลา 21.00 น. วันที่ 4 พ.ค. ที่ห้องปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สภ.เมืองนครปฐม แถลงจับกุมตัว นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี กับ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้าเม็ดสีส้ม มีเม็ดสีเขียวปะปนบางส่วนบรรจุในถุงพลาสติกสีฟ้า ถุงละ 200 เม็ด จำนวน 90 ถุง รวมประมาณ 18,000 เม็ด ซึ่งแยกรวมห่อด้วยกระดาษสาสีน้ำตาลเคลือบเทียนกันชื้นทั้งหมดจำนวน 9 ห่อๆละ 10 ถุง โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อแบล็กเบอรี่สีดำ 1 เครื่องพร้อมซิมการ์ด โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อแบลคเบอรี่ สีเขียวพร้อมซิมการ์ด 1 เครื่อง กระเป๋าสะพายสีชมพู 1 ใบ กระเป๋าสะพายสีขาว-ชมพูลายดอก 1 ใบที่บรรจุยาบ้ามาขณะถูกตรวจค้นจับกุม ยาไอซ์เกล็ดสีขาวใส บรรจุถุงพลาสติกใสจำนวน 1 ถุงน้ำหนัก 1.89 กรัม 1 ถุง(ค้นพบ น.ส.บีซุกซ่อนไว้ในกางเกงชั้นในที่สวมอยู่) เงินสด 600 บาท สร้อยข้อมือมีจี้รูปหัวใจสีคล้ายทองคำน้ำหนักประมาณ 2 สลึง 1 เส้น
เจ้าหน้าที่ผู้จับได้แจ้งข้อกล่าวหานายเอและน.ส.บี ผู้ถูกจับกุมทราบฐานความผิดว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1(ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” “แจ้งข้อกล่าวหา น.ส.บีว่า มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์)ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฏหมาย แจ้งข้อกล่าวหานายเอว่า “เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย” และแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.บีว่า“เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย”
พฤติการณ์ในการจับกุมวันนี้ (4 พ.ค. 56) เวลาประมาณ 17.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับคำสั่งจากผู้บังคับชาให้ร้อยเวรสองศูนย์นำกำลังออกตั้งจุดตรวจบริเวณถนนมาลัยแมน หน้าสำนักงานปศุสัตว์ จังหวัดนครปฐม ขาเข้าเมืองนครปฐม เพื่อทำสกัดจับกุมการขนย้ายยาเสพติด ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดผ่านพื้นที่ สภ.เมืองนครปฐมโดยให้สังเกตชายหญิงวัยรุ่นจำนวนสองคน โดยสารมากับรถแท็กซี่จาก อ.กำแพงแสน ตามถนนมาลัยแมน มุ่งหน้าเข้านครปฐม จึงได้นำกำลังตั้งจุดตรวจบริเวณดังกล่าว
จนกระทั่ง เวลาประมาณ 17.30 น. ได้มีรถยนต์แท็กซี่ สีเขียว เหลือง หมายเลขทะเบียน มช 8187 กรุงเทพฯ ขับเข้ามาที่จุดตรวจจึงเรียกตรวจค้นโดยมีนายเอ ผู้ต้องหานั่งเบาะด้านหลังคนขับด้านขวา และ มี น.ส.บี ผู้ต้องหา นั่งเบาะด้านหลังด้านซ้าย มีท่าทางมีพิรุธ จึงได้ทำการตรวจค้นพบ กระเป๋าสะพายสีชมพู ขาว ลายดอกไม้ บรรจุกระเป๋าสะพายสีชมพูอยู่ด้านในอีกชั้นหนึ่ง ภายในกระเป๋าสีชมพูมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 2 ห่อใหญ่
เมื่อเปิดดูพบว่ามียาบ้า รวมจำนวน 9 มัด มัดละ 10 ถุง(สีฟ้า) บรรจุถุงละ 200 เม็ด รวมจำนวน 18,000เม็ด ซึ่งกระเป๋าบรรจุของกลางดังกล่าว วางอยู่บนเบาะหลังระหว่างกลางที่ผู้ต้องหาทั้งสอง นั่ง และจากทำการตรวจปัสสาวะ เบื้องต้นพบสารเสพติดจึงนำส่งตรวจ ร.พ.ศูนย์นครปฐมเพื่อยืนยันผลพบว่า มีสารเสพติดให้โทษในร้างกายของผู้ต้องหาทั้ง 2 ซึ่งจากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 ก็รับว่า เสพยาไอซ์มาก่อนจะมาถูกจับกุม และจากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองถึงการได้มายาบ้าดังกล่าว ผู้ต้องรับ พี่โอ๊ด หรือนายศราวุฒิ เท่าราช อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/265 ม. 4 แขวงท่าข้าม เขต บางขุนเทียน กทม.(ทราบชื่อนามสกุล ที่อยู่จากสำเนาเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนของนายศราวุฒิ หรือโอ๊ด ที่อยู่ในประเป๋าสะพายของน.ส.บี) จ้างให้มารับยาเสพติดดังกล่าวจาก หญิง-ชาย อายุประมาณ 20 ปีไม่ทราบชื่อ ขับรถจักรยานยนต์ฟิโนสีชมพู-ครีมมาส่งซึ่งทางนายศราวุฒิ หรือโอ๊ด ได้ประสานให้ติดต่อทางโทรศัพท์ นำมาส่งให้ที่ใต้สะพานลอยคนข้าม หน้า ม.เกษตรกำแพงแสน โดยให้เงินสดเป็นค่าโดยสารแท็กซี่มา 1 พันบาท และให้ยาไอซ์ 1 ซองน้ำหนัก 1.89 กรัมมูลค้าประมาณ 1 หมื่นบาท(ที่ค้นพบในตัวหลังถูกจับกุม)เป็นค่าจ้างเพื่อแบ่งกัน 2 คน
ขณะที่คนขับแท็กซี่ให้การว่าผู้ต้องหาทั้งสองได้ว่าจ้างจาก ม.เกษตร บางเขนให้มาที่ ม.เกษตร กำแพงแสน โดยคิดค่าจ้าง ตามมิเตอร์ จึงได้นำตัวมาที่ สภ.เมืองนครปฐมได้ทำการตรวจค้นตัวน.ส.บี โดย ผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจหญิงเป็นผู้ตรวจค้นผลการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบรูดปิดเปิดปาก น้ำหนักรวมถุงประมาณ 1.89 กรัม(มูลค่าประมาณ 1 หมื่นบาท ซุกซ่อนอยู่ภายในกางเกงชุดชั้นในของผู้ต้องหาที่สวมใส่อยู่ จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่การสอบถามพูดคุยกับ น.ส.บีบอกว่า รู้จักคุ้นเคยกับ พี่โอ๊ด หรือนายศราวุฒิ มาระยะหนึ่ง ซึ่งมีบ้านอยู่ในละแวกเดียวกัน และได้มีโอกาสได้ใช้ขนม(ยาอี ยาเค)จากนายศราวุฒิเวลาไปเที่ยวเทคผับเพื่อให้เคลิบเคลิ้มและเพื่อความมึนเมา โดยครั้งนี้นายศราวุฒิได้จ้างวานให้มารับยาเสพติดโดยให้ยาไอซ์เป็นค่าจ้าง