บุกยิงปลัดอบจ.ขอนแก่นดับสยอง

เมื่อเวลา 08.45 น.  วันนี้ (3 พ.ค.) ร.ต.ท.ขจิตพงศ์ ดิษฐเจริญ ร้อยเวร สภ.เมืองขอนแก่น รับแจ้งมีเหตุยิงกันตาย บริเวณหน้าบ้านพัก ปลัด อบจ.ขอนแก่น ภายในคุ้มจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแกน ห่างจากจวน ผวจ.ขอนแก่น ประมาณ 800 เมตร จึงไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.สุรพ พินิจชอบ รอง ผบช.ภ.4  พ.ต.อ.จรูญ นวมทอง ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น  เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจากกองวิทยาการเขตที่ 23 และหน่วยกู้ภัยขอนแก่นสามัคคีอุทิศ

ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านพักเลขที่ 198/45  ถนนกสิกรทุ่งสร้าง ซึ่งเป็นบ้านพักของ ปลัด อบจ.ขอนแก่น บริเวณริมถนนหน้าบ้าน พบรถยนต์กระบะ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ติดเครื่องหมายของ อบจ.ขอนแก่น บริเวณประตูหน้าทั้ง 2 ข้าง หมายเลขทะเบียน กพ-9219 ขอนแก่น ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งปลัด อบจ.ขอนแกน จอดติดเครื่องยนต์อยู่ โดยบริเวณด้านขวาฝั่งคนขับ พบศพนายสุชาติ โคตรทุม อายุ 53 ปี ปลัด อบจ.ขอนแก่น ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่ใบหน้า และแขนทั้ง 2 ข้าง หลายนัด นอนเสียชีวิตจมกองเลือด ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 5 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

พล.ต.ต.สุรพล พินิจชอบ รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายกำลังจะขับรถไปปฎิบัติราชการตามปกติ จังหวะที่ผู้ตายขับรถพ้นประตูบ้าน คนร้าย 3 คน ซึ่งใช้รถกระบะ สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อ รุ่นและหมายเลขทะเบียน เป็นพาหนะ ขับมาจอดตรงหน้า ก่อนที่ 2 ใน 3 จะลงมาพูดคุยกับผู้ตายประมาณ 5 นาที จากนั้นจึงใช้อาวุธปืนที่เตรียมมากระหน่ำยิงใส่ผู้ตายหลายนัด จนเสียชีวิตคาที่แล้วหลบหนีไป ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบได้เบาะแสรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย ที่ลงมือก่อเหตุจากพยานที่เห็นเหตุการณ์แล้ว 

โดยเฉพาะช่วงที่ขับรถหลบหนี เนื่องจากมีทางเข้าออกไม่กี่ทาง หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น บก.ภ.จว.ขอนแก่นและ บชภ.4 ประสานงานสืบสวนหาข้อมูล ยังตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณหน้าบ้านพัก รวมไปถึงทุกเส้นทางที่ออกจากบ้านพัก และถนนในจุดที่ใกล้เคียงกับบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม คาดว่าปมสังหารน่าจะมาจากเรื่องของธุรกิจและความขัดแย้งส่วนตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในขณะที่การตรวจสอบที่เกิดเหตุของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น นายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิชย์ รมช.ศึกษาธิการ ซึ่งอยู่ในระหว่างการปฎิบัติหน้าที่ในเขต จ.ขอนแก่น ได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง เนื่องจากนายสุชาติ ถือเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดกับนายเสริมศักดิ์ มากที่สุดบุคคลหนึ่ง รวมไปถึงความสนิทสนมกับ ส.ส.และสมาชิกของพรรคเพื่อไทย หลายคน โดย นายเสริมศักดิ์ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนสอบสวนจับกุมคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้และโดยเร็วที่สุด.