พลทหารเมาคลั่งอาละวาดทำร้ายเมีย-ชาวบ้าน ตำรวจจู่โจมจับโกลาหล
พลทหารเมาคลั่งอาละวาดทำร้ายเมีย-ชาวบ้าน ตำรวจจู่โจมจับโกลาหล
เวลา 00.30 น. วันที่ 2 พ.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง รับแจ้งมีเหตุทหารคลั่งอาละวาดจะทำร้ายผู้คน ขณะนี้เดินถือไม้และขวดอยู่กลางถนนโพธิ์พระยา-ท่าเรือ หมู่ที่ 4 ต.ศาลาแดง อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุเมื่อไปถึง พบทหารเกณฑ์ ทราบชื่อ พลทหารสมยศ แจ้งใจ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/1 ต.กุฎี อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา พลทหารสังกัดกองพัน 20 รอ. หรือ ทหารม้า ค่ายอดิศร จ.สระบุรี กำลังเดินอาละวาดถือไม้และขวดเดินออกไปตามถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องแจ้งขอกำลังเสริมมาสนับสนุนเพิ่มเติม เนื่องจากพลทหารสมยศ อยู่ในอาการที่คลุ้มคลั่งและเดินมือไม้และขวดไปตามถนน จนกระทั่งเดินไปถึงร้านขายสินค้ามือสองริมถนนใกล้เคียงกับโรงเรียนสตรีอ่างทอง เจ้าของร้านได้เรียกให้พลทหารสมยศเข้าไปในร้าน จากนั้นก็ตั้งรั้วเหล็กขึ้นปิด
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกให้ออกมา แต่พลทหารสมยศไม่ออกมา พร้อมตะโกนบอกว่าไม่ยอมออกไปจนกว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำคนที่ยิงปืนขู่ตนมาพบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเจรจาเกลี้ยกล่อมอยู่นานก็ไม่ยอมออกมา ทางเจ้าของร้านขายของเก่าก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตัดสินใจจู่โจมเข้าไปด้านหลัง เพื่อจับกุมพลทหารสมยศ เนื่องจากหากปล่อยไว้คนอื่นอาจได้รับอันตรายอีก
หลังจากที่ควบคุมตัวพลทหารสมยศได้แล้ว และกำลังนำขึ้นรถเพื่อจะกลับมาสอบสวนที่โรงพัก ก็เกิดเหตุคนเมาผ่านมาเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวพลทหารสมยศอยู่ ก็กระโดดถีบพลทหารสมยศ จนแม่ของพลทหารสมยศเกิดความไม่พอใจ กระโดดเข้าไปตบชายคนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเข้าไปกันและแยกตัวกันอย่างโกลาหล
จากการสอบสวนพลทหารสมยศ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้พูดคุยอยู่กับภรรยาที่ร้านขายของของพี่สาว ต่อมาได้เกิดมีเรื่องกับภรรยาและเกิดการทะเลาะกัน อยู่ ๆ ก็มีชายคนหนึ่งซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่าสารวัตรกำนันเข้ามาแล้วชักปืนชี้หน้าตน และก็ยิงปืนใส่ตน จากนั้นก็ขี่รถออกไป ตนโมโหจึงคว้าไม้และขวดเดินออกมาจากร้าน
ด้านนางสาวจิตรา แจ้งใจ อายุ 25 ปี พี่สาวพลทหารสมยศ กล่าวว่า ตนเปิดร้านขายของอยู่ใกล้ๆ บริเวณข้างปั๊ม ปตท. ก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งอยู่ในร้านกับเพื่อนๆ โดยมีพลทหารสมยศและน้องสะใภ้ที่ชื่อติ๊ก อยู่ด้วย ซึ่งต่อมาพลทหารสมยศได้เกิดทะเลาะกับนางติ๊ก แล้วก็มีเรื่องทุบตีกันจนทำให้นางติ๊กสลบ ตนเห็นอย่างนั้นจึงได้เข้าไปเพื่อจะพานางติ๊กไปหาหมอ แต่พลทหารสมยศไม่ยอม เดินปรี่เข้ามาหาตนพร้อมด้วยจะใช้ไม้ตีตน จังหวะนั้นนายศุภฤกษ์เพื่อนของตนซึ่งอยู่ด้วยได้เข้ามาขวาง ก็ถูกพลทหารสมยศผลักล้มลงจนขาเจ็บ แล้วก็ตรงมาคว้ากุญแจรถยนต์ของตนยี่ห้อนิสสัน บิ๊กเอ็ม สีดำ-เทา หมายเลขทะเบียน บง-4096 อ่างทองของตนไป
สักพักนางติ๊กก็ฟื้นขึ้นมา จังหวะนั้นก็ได้มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งตนก็ไม่รู้จัก แต่เขาเรียกกันว่าสารวัตรกำนันเดินเข้ามาเพื่อจะห้ามปราม แต่พลทหารสมยศยังไม่ยอมหยุด ชายคนดังกล่าวจึงได้ยิงปืนขึ้นฟ้าขู่ออกไป แล้วก็ขี่รถออกไป จากนั้นพลทหารสมยศก็ยิ่งอาละวาด และเดินถือไม้และขวดเบียร์ออกมาตามถนน จนหายเข้าไปในร้านขายของมือสองที่บริเวณริมถนนใกล้โรงเรียนสตรี ซึ่งเป็นร้านของเพื่อนพ่อตน
นางสาวจิตรา กล่าวต่อว่า พลทหารสมยศน้องชายของตนนั้น เมาและเสพยา จากนั้นได้ทะเลาะกับนางติ๊กภรรยา ซึ่งนางติ๊กเองก็เสพยาเหมือนกัน และนิสัยของพลทหารสมยศนั้นก็มักจะอารมณ์ร้อนและทะเลาะกับนางติ๊กภรรยาอยู่บ่อยๆ และพลทหารสมยศก็ได้หนีทหารออกมาด้วย
ส่วนนายศุภฤกษ์ เฉลากลาง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/12 ถ.ท้าวสุระ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ตนเป็นเพื่อนของนางสาวจิตรา ก่อนเกิดเหตุตนอยู่กับนางสาวจิตรา และก็ได้เห็นเหตุการณ์ตอนที่พลทหารกำลังจะเข้าไปตีนางสาวจิตรา ซึ่งตนเป็นเพื่อนและเป็นผู้ชายด้วยเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวก็ทนไม่ได้ เพราะนางสาวจิตราเป็นพี่สาวแท้ๆ ของพลทหารสมยศ ก็เลยตรงเข้าไปห้าม โดยเอาตัวเข้าไปกัน แต่ก็ถูกพลทหารสมยศ ผลักจนล้มลง และบาดเจ็บที่ขา เนื่องจากขาของตนใส่เหล็กอยู่ และตนก็เห็นตอนที่มีคนเข้ามาช่วยห้าม และยิงปืนขึ้นขู่ แต่ตนไม่รู้จักว่าเป็นใคร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวพลทหารสมยศมาถึงโรงพัก พลทหารสมยศก็ยังคงโวยวายอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องนำตัวไปขังไว้บนรถควบคุมตัวผู้ต้องหา และทำการตรวจหาสารเสพติดต่อไป