ทันตแพทย์ ยันไม่เกี่ยวข้องคดีฆ่าหั่นศพหนุ่มแบงก์ ลั่นไม่ใช่เกย์
ทันตแพทย์ ที่ถูกโยงกับคดีฆ่าหั่นศพ ยันไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ และไม่ได้เป็นเกย์แต่อย่างใด วอนสื่อชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง พร้อมเผยว่า เพิ่งแต่งงานได้ 4 เดือน ขณะนี้ภรรยากำลังตั้งครรภ์ด้วย
เมื่อ วานนี้ (22 เมษายน) ที่ร้านชัยพรคลินิกทันตกรรม ซึ่งตั้งอยู่ใน ต.นครชุม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ทันตแพทย์ชัยพร แซ่อึ้ง อายุ 37 ปี พร้อมด้วย นางสายทอง แซ่อึ้ง อายุ 73 ปี มารดา ได้ร่วมกันเปิดบ้านแถลงข่าว เพื่อชี้แจงและขอความเป็นธรรม กรณีถูกนำเสนอข่าวว่าพัวพันกับคดีฆ่าหั่น ศพ นายเกรียงไกร ขวัญอ่อน อายุ 24 ปี หนุ่มธนาคาร ซึ่งพบศพถูกทิ้งอยู่ในลำห้วย อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท
ทันตแพทย์ชัยพร เผยว่า รู้จักกับนายเกรียงไกร แค่ในฐานะคนไข้กับหมอเท่านั้น โดยผู้ตายเริ่มมาใช้บริการจัดฟันที่คลินิกเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2555 ประมาณ 7-8 ครั้ง ล่าสุดนัดหมายวันที่ 16 เมษายน 2556 ซึ่งที่ผ่านมาเคยติดต่อกันทางโทรศัพท์จริง โดยนายเกรียงไกรได้ขอให้ตนช่วยทำบัตรเครดิตของธนาคารทหารไทย ตนเห็นว่า นายเกรียงไกรเป็นคนอัธยาศัยดี รู้จักทำมาหากิน ช่วยกันไปก็ไม่เสียหาย จึงได้ให้เอกสารไป ตามที่พบในรถของนายเกรียงไกร จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก เพราะไม่ได้มีความสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัว
ต่อ มาเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 21 เมษายน ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ สภ.พรานกระต่าย 2 นาย มาหาที่คลินิกในตลาด อ.พรานกระต่าย แต่ขณะนั้นมีลูกค้าอยู่เต็มร้าน ตนเกรงว่าไม่เหมาะสม จึงได้ขอเวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นได้มีตำรวจชัยนาท มาสมทบเพิ่มอีก 5 คน โดยมายืนล้อมตน ขณะอธิบายเรื่องการทำฟันกับคนไข้ ดังนั้นตนจึงให้คนไข้กลับไปกันก่อน ขณะที่บางส่วนก็ยังรออยู่
จากนั้นตนได้ถูกพาขึ้นรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว ไปที่สถานีตำรวจพรานกระต่าย ท่ามกลางสายตาของประชาชน แล้วบอกว่ามีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้น จากนั้นตำรวจซึ่งรีบร้อนมาก ได้พาตนไปยัง จ.ชัยนาท โดยไม่บอกให้ตนแจ้งที่บ้านและภรรยาทราบ ซึ่งตนรู้สึกตกใจมาก โดยระหว่างที่อยู่ในรถ ตนถูกนั่งประกบทั้งซ้ายและขวา จนรู้สึกไม่ปลอดภัย และรับไม่ได้ที่ตำรวจพยายามใช้จิตวิทยาซักถามเรื่องเครื่องมือผ่าตัดสมัยที่ ยังเรียนอยู่ และถามถึงเรื่องความสัมพันธ์กับผู้ตาย ซึ่งตนยืนยันว่าไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่ตำรวจกลับทำเหมือนตนเป็นอาชญากรสำคัญ เมื่อถูกนำตัวไปสอบสวนที่ จ.ชัยนาท ต่อมาตนได้ถูกส่งตัวกลับมาที่บ้าน ก่อนถูกตรวจค้นบ้านพักในเช้าวันที่ 22 เมษายน
ทันตแพทย์ ชัยพร ยังกล่าวอีกว่า ตนอยากถามว่า แค่มีเพียงเอกสารของตนที่ทำบัตรเครดิตอยู่ในรถของผู้ตาย คนทำงานธนาคารมีเอกสารลูกค้ามันแปลกไหม วันนี้มีชื่อของตนและคลินิกปรากฏอยู่ในอินเทอร์เน็ต คิดว่าเสียหายไหม จะกระทบต่ออาชีพของตนไหม คนไข้มาถามหลายคน ใครจะรับผิดชอบได้ ตามข่าวระบุว่า ตนมีความสนิทสนมกับผู้ตาย ในลักษณะชายรักชาย และคาดว่าตนก่อเหตุเพราะเกิดความหึงหวง แค่นี้ตนก็เสียหายมากแล้ว เพราะ ตนเพิ่งแต่งงานกับภรรยาได้ 4 เดือน และขณะนี้ภรรยาตนกำลังตั้งครรภ์อยู่ ข่าวนี้จะส่งผลต่อบุตรในครรภ์อย่างไร ซึ่งทางตำรวจน่าจะมีการตรวจสอบก่อน ช่องทางอื่นมีอยู่มากมาย ไม่ใช่เลือกที่จะจู่โจมเช่นนี้
ส่วนสภาพศพที่ถูกหั่นแยกเป็นส่วน ๆ ตามที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวนั้น ตนเห็นว่าเป็นการลงมือแบบหยาบ ๆ โดยหั่นผ่านกางเกง หากเป็นแพทย์ลงมือต้องถอดกางเกงออกก่อน คดีฆ่าหั่นศพนี้จะเป็นฝีมือบุคลากรทางการแพทย์จริงหรือ สื่อกับตำรวจปักใจเชื่อเลยหรือเปล่า เคยเห็นตามเขียงหมูหรือไม่ การหั่น คนนั้นไม่ยาก คนทั่วไปก็ทำได้ไม่ต้องเป็นแพทย์หรอก ทำไมต้องด่วนสรุปเองว่า ต้องเป็นกลุ่มวิชาชีพแพทย์ ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลให้วิชาชีพแพทย์เสียหายเป็นอย่างมาก
อย่าง ไรก็ตาม ทันตแพทย์ชัยพร ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า เรื่องดังกล่าวทำให้ตนเสียหายมาก และยืนยันว่า ตนบริสุทธิ์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีนี้ พร้อมกับนำสมุดบันทึกเวลาทำงานที่คลินิกทั้งสองแห่ง คือ คลินิกนครชุม กับคลินิกพรานกระต่าย มาแสดง และตนขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับครอบ ครัวของตน พร้อมวอนสื่อมวลชนชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวให้สังคมได้เข้าใจ เพราะกระทบต่อวิชาชีพโดยตรง