รวบแล้วมือปืนยิง ‘ร.ต.ต.’ ดับที่อ่างทองช่วงสงกรานต์ หลังหนีกบดานฝั่งลาว

รวบแล้วมือปืนยิง ‘ร.ต.ต.’ ดับที่อ่างทองช่วงสงกรานต์ หลังหนีกบดานฝั่งลาว

 เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 23 เม.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผบก.ภ.เชียงราย พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ ผกก.สภ.เชียงของ จ.เชียงราย ได้ควบคุมตัวนายวิทยา อินทรานุรักษ์ หรือ ‘จ้อน’ อายุ 34 ปี อยู่ม.2 ต.บางช้าง อ.บางช้าง จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาในคดียิง ร.ต.ต.วรวัฒน์ ผลกล้วย นายตำรวจปราบปรามเกี่ยวกับการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) จนเสียชีวิตท้องที่ ม.4 ต.ไผ่จำศีล อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เมื่อคืนวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา ไปที่ สภ.เมืองเชียงราย จากนั้นได้ส่งมอบตัวให้กับตำรวจ สภ.วิเศษชัยชาญ ที่เดินทางไปรับที่ จ.เชียงราย เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย

 โดยการควบคุมตัวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายวิทยาได้ประสานทางโทรศัพท์มายังคนรู้จักให้ประสานไปยังตำรวจ จ.เชียงราย เพื่อขอมอบตัว โดยแจ้งให้ไปรับตัวที่ชายแดนไทย-สปป.ลาว อ.เชียงของ จ.เชียงราย ทำให้ พล.ต.ต.วันชัย สั่งการให้ พ.ต.อ.ทรงกริช นำกำลังไปรับตัว ซึ่งนายวิทยาได้นั่งเรือเล็กโดยสารข้ามแม่น้ำโขงมาจากเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว มายังฝั่งไทยบริเวณหาดทรายบ้านดอนมหาวัน ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัว จากนั้นคืนที่ผ่านมาได้นำตัวไปคุมขังชั่วคราวที่ สภ.เมืองเชียงราย ตามความประสงค์ของนายวิทยา

 เบื้องต้นนายวิทยาให้การรับสารภาพก่อนถูกส่งมอบตัวว่า ช่วงคืนเกิดเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตามถนนสายโพธิ์พระยา-ท่าเรือ ท้องที่เกิดเหตุและได้ขับรถตัดหน้ากันไปมากับรถยนต์คันหนึ่งทำให้รถยนต์คันนั้นจอดและลงมาต่อว่า ทำให้เกิดการมีปากเสียงกันอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่มีเหตุรุนแรงเพราะท้ายที่สุดสามารถตกลงกันได้ แต่ต่อมาได้มี ร.ต.ต.วรวัฒน์ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถเข้าไปสมทบพร้อมเข้าไปต่อว่าอีก เมื่อเห็นมีทีท่าจะเดินเข้าไปทำร้ายจึงชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่ เมื่อไม่หยุดจึงยิงเข้าที่ขาของ ร.ต.ต.วรวัฒน์ จำนวน 1 นัดแต่ไม่ยอมหยุดรวมทั้งยังมีท่าทางจะเข้ามาถีบ จึงได้ยิงเข้าไปอีก 2 นัด จนล้มลง จากนั้นได้หลบหนีไปยังกรุงเทพฯ และว่าจ้างรถแท็กซี่เป็นเงิน 10,000 บาท ให้พาไปยัง อ.เชียงของ ก่อนข้ามไปหลบหนีอยู่ในฝั่ง สปป.ลาว จากนั้นสำนึกผิด จึงได้ประสานขอเข้ามอบตัวดังกล่าว

 ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิเศษชัยชาญ ได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามขั้นตอนที่ สภ.วิเศษชัยชาญ แล้ว