วันนี้ 9 เม.ย.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าเพจเฟซบุ๊กของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความผ่าน ชูวิทย์ I'm No.5ถึงการบุกเข้าจับกุม"บ่อนเตาปูน" โดยนายชูวิทย์ได้ตั้งข้อสังเกตว่า
บ่อนเตาปูนทำไมต้องเป็นบ่อนเตาปูน?
ทำไมบ่อนเตาปูนถูกจับสองครั้งสองครา ภายในเวลาเพียง 3 เดือน ทั้งๆที่บ่อนนี้เป็นบ่อนที่จับกุมยากที่สุด เนื่องจากอยู่ใจกลางชุมชน คนที่จะเข้าไปได้ต้องผ่านชุมชน เดินวนเวียนเป็นเขาวงกต และผู้คนในชุมชนก็เป็นคนของบ่อน กว่าจะเข้าไปจับ วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ต้องขึ้นเฮลิคอปเตอร์โรยตัวลงไป การที่จะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปโดยคนที่อยู่ในบ่อนไม่รู้ก่อน แทบเป็นไปไม่ได้
หากจะพูดกันอย่างตรงไปตรงมา ต้องบอกว่า เพราะเป็น "บ่อนเหลือง"
บ่อนนี้เขาสนับสนุนซีกฝั่งตรงกันข้ามกับพรรครัฐบาล จึงเป็นปัญหา ถูกกดดัน รวมทั้งไม่ถูกชะตา เจรจาไม่ลงรอยกับผู้ที่มีอำนาจยิ่งใหญ่คับฟ้าทุกวันนี้ เมืองไทยมันเป็นอย่างนี้แหละครับ "กฎหมาย" มันสู้ "กฎวาสนา" ไม่ได้ เพราะถ้าวาสนาดี ชี้เป็นชี้ตายให้ใครก็ได้ เดิมที่บ้านไม่มีคน นั่งกินไวน์กับถั่ว ดูทีวี พอวันไหนมีวาสนาได้รับตำแหน่งใหญ่โตเท่านั้นล่ะครับ ลูกน้องเต็มบ้าน แม้กระทั่งสัตว์เลื้อยคลานยังโผล่ออกจากท่อมาชูคอกันสลอน แค่ยกแก้วไวน์ก็มีคนรินให้ แค่จับซิก้าร์ก็มีไฟแช็คมารอ เรียกว่า "ชี้นกเป็นควาย" ลูกน้องยังเชื่อ หรือจะให้เดินสี่ขาแบบควายก็ยังทำได้
แล้วทำไมจะต้องไปปฏิบัติตามกฎหมาย?
บ่อนมีเป็นร้อยเป็นพัน วนเวียนอยู่แค่บ่อนเตาปูน บ่อนอื่นจับง่ายกว่ามาก แต่ก็เลือกเอาเฉพาะบ่อนนี้ เพราะมีเป้าหมาย คงต้องรอให้เขาหมดบุญหมดวาสนา หรือไม่ก็ต้องยอมไปเป็นพวกเดียวกัน แปลงจากเหลืองเป็นแดงให้มันรู้แล้วรู้รอดไป มันถึงจะไม่ถูกปิด
บ่อนเตาปูนเป็นกรณีตัวอย่างชัดเจนที่สุด ที่สะท้อนให้เห็นเรื่องของ "กฎวาสนา" ที่ยังใช้ได้ดีในประเทศไทยมากกว่า "กฎหมาย"
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
