เมื่อ 5 เม.ย. พ.ต.ท.ขวัญชัย กองศักดิ์ พงส.ผนพ.สน.ลำผักชี รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกปล้นร้านบิ๊กซี มินิ สาขาซอยอยู่วิทยา
ถนนอยู่วิทยา แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สมพร กฤษณพิพัฒน์ ผกก.สน.ลำผักชี พ.ต.ท.สมชาย ธรรมสารตระกูล รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.คำแหง กัณฑวงศ์ รอง ผกก.สส. กำลังฝ่ายสืบสวนสน.ลำผักชีและชุดสืบสวนกก.สส.บก.น.3 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ยืนรอให้การด้วยใบหน้ายังไม่หายจากอาการตื่นตระหนก ว่า ก่อนเกิดเหตุตนและพนักงานในห้างกำลังช่วยกันจัดสินค้าอยู่ใกล้บริเวณเคาน์เตอร์เก็บเงิน จู่ๆ ก็มีคนร้ายเป็นชายจำนวน 3 คน
ถืออาวุธปืนแบบออโตเมติก คนร้ายคนที่ 2 รูปร่างอ้วน สวมเสื้อยืดแขนสั้น สีดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ คลุมหัวด้วยผ้าแบบไอ้โม่งสีแดง ส่วนคนสุดท้ายรูปร่างสูงสวมเสื้อแขนสั้นสีน้ำตาล กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงินเข้ม คลุมหัวด้วยผ้าแบบไอ้โม่งสีขาว บุกเข้ามาภายในร้าน ก่อนจะใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้ตนเปิดตู้เซฟที่ใช้เก็บเงินสด ซึ่งซ่อนอยู่ใต้เคาน์เตอร์คิดเงิน ภายในมีเงินสดประมาณ 40,000 บาท ส่วนคนร้ายอีกคนได้เดินไปกระชากสร้อยคอทองคำของพนักงานในร้าน น้ำหนัก 1 บาท
หลังจากเห็นเพื่อนได้เงินสดจากตู้เซฟแล้วก็ได้เดินมาบังคับเอาโทรศัพท์มือถือโนเกียจากตนไปอีก 1 เครื่อง พร้อมกับหยิบขวดสุราต่างประเทศ ซึ่งวางอยู่หลังเคาน์เตอร์ไปอีก 1 ขวด ก่อนที่คนร้ายทั้ง 3 คนจะวิ่งหลบหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ซึ่งจอดอยู่ด้านหน้าขี่หลบหนีไป จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เพราะมีการรู้ที่ซ่อนตู้เซฟรวมถึงรู้ว่ามีพนักงานสวมใส่สร้อยคอทองคำมาทำงาน ซึ่งคาดว่ากลุ่มคนร้ายอาจจะเป็นวัยรุ่นในพื้นที่ หรือไม่ก็อาจจะเป็นพนักงานที่ถูกไล่ออกไปก่อนหน้านี้ และจากการตรวจสอบพบว่า มินิมาร์ทดังกล่าวพึ่งจะเปิดบริการมาได้เพียงแค่เดือนเศษเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้ก็เพิ่งไล่พนักงานออกไปจำนวน 3 คน หลังพบว่ามีการทุจริตรวมถึงตรวจสอบพบมีสารเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะเปรียบเทียบรูปพรรณคนร้ายที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้กับประวัติพนักงานเก่าว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุปล้นครั้งนี้หรือไม่ เพื่อเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป