(5เม.ย.) ที่ห้องไอซียู หออภิบาลผู้ป่วยหนัก 4 รพ.กรุงเทพ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปเยี่ยมอาการของน้องเอย
ด.ญ.มนัสนันท์ ทองภู่ อายุ 3 ปี นักเรียนชั้นเตรียมอนุบาล 1 โรงเรียนอนุบาลอนงค์เวท จ.สมุทรปราการ ซึ่งป่วยมีอาการสมองบวม เนื่องจากขาดอากาศหายใจและตากแดดเป็นเวลานาน สาเหตุเกิดจาก ด.ญ.มนัสนันท์ ถูกครูลืมไว้ในรถตู้รับส่งนักเรียนเป็นเวลานานหลายชั่วโมง แต่พบว่า บริเวณประตูหออภิบาล มีการติดกระดาษข้อความว่า “ งดเยี่ยม ผู้ป่วย เนื่องจากแพทย์ต้องการให้ผู้ป่วยพักผ่อน ถ้าต้องการทราบข้อมูลให้ติดต่อ ผู้ปกครอง ”
นายเอกชัย ทองภู่ อายุ35 ปี บิดาของน้องเอย ซึ่งคอยเฝ้ารอดูอาการของลูกสาวอย่างใกล้ชิด เปิดเผยว่า
ขณะนี้อาการของน้องเอยยังคงทรงตัว และยังคงพักรักษาตัวอยู่ภายในห้องไอซียู ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาเกล็ดเลือดของน้องเอยต่ำมาก แต่ว่าในช่วงเช้าวันนี้เกล็ดเลือดเพิ่มขึ้นแล้ว แต่อาการสมองบวมยังคงไม่ดีขึ้น ซึ่งแพทย์ได้เฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดแบบชั่วโมงต่อชั่วโมงอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากอาการยังไม่คงที่และเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ส่วนจะมีการผ่าตัดสมองเมื่อใดนั้น ตนคงไม่สามารถตอบได้ ซึ่งตนคาดว่าการผ่าตัดสมองคงเป็นกระบวนการสุดท้ายที่จะตัดสินใจทำ หากอาการของน้องเอยยังคงไม่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามตนได้สร้างแฟนเพจชื่อว่าน้องเอยในเฟซบุ๊คขึ้นด้วย หากใครจะเข้ามาให้กำลังใจก็สามารถทำได้เพราะตนไม่อยากให้เข้าไปเยี่ยมในห้องไอซียู เนื่องจากเกรงว่าน้องเอยอาจจะติดเชื้อได้
ผ่าตัดสมอง“น้องเอยเป็นทางเลือกสุดท้าย
ส่วนบรรยากาศ ที่โรงเรียนอนุบาลอนงค์เวท พบว่าได้ยกเลิกการเรียนการสอนนักเรียนเด็กเล็กในช่วงซัมเมอร์
ในขณะที่นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิ ปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วยนางรัตนา นครโสภา อายุ 34 ปี ได้เดินทางไปยัง สภ.บางปู เพื่อติดตามความคืบหน้าในเรื่องคดี โดยทาง พ.ต.อ. วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผกก. ได้รายงานผลความคืบหน้าว่า ขณะนี้ได้เชิญตัว น.ส.ดาวรอง ศรีสมุ้ง อายุ 37 ปี ครูพี่เลี้ยง ซึ่งเป็นคนปิดประตูรถตู้ มาทำการสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เอาไว้แล้ว ส่วนนายสันติภาพ หวานใจ อาจารย์สอนคอมพิวเตอร์ ที่เป็นคนขับรถตู้ และนางอนงค์ คีรีวงษ์ อายุ 77 ปี ผู้ขออนุญาตจัดตั้งโรงเรียน ซึ่งได้โทรศัพท์นัดหมายจะเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาเดียวกัน ในวันนี้ ได้ให้ทนายความติดต่อขอเลื่อนนัดไปเป็นวันที่ 8 เม.ย.นี้
โดยนางอนงค์ อ้างว่า ล้มป่วยกะทันหัน เนื่องจากช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงกับต้องหามเข้ารักษาตัวที่รพ.บางนา 5
ส่วนนายสันติภาพ อ้างว่ายังไม่พร้อม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกหมายเรียกบุคคลทั้งสองให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาตามกฎหมาย หากครบกำหนดแล้วยังไม่มาก็จะขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการต่อไป
ด้าน นางปวีณา กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทางโรงเรียนจะโยนความผิดให้ลูกน้องไม่ได้
เจ้าของโรงเรียนต้องรับผิดชอบด้วย อย่างไรก็ตามได้โทรศัพท์พูดคุยกับ พล.ต.ต.ธัชชัย หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ให้กำชับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีดำเนินการเรื่องนี้โดยละเอียด และให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวของ ด.ญ.มนัสนันท์
นางรัตนา กล่าวว่า ตนและญาติไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย
เพียงต้องการให้มาพูดคุยกันและลงลายมือเป็นลายลักอักษรว่าจะรับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะค่ารักษาพยาบาลและส่วนอื่น ๆ ไม่ใช่มาหลบหน้ากันแบบนี้ แต่ในเรื่องที่ตนเองติดใจมากก็คือ มาพบน้องเอยตอนบ่ายโมงกว่า ๆ แต่กลับโทรศัพท์มาบอกตนตอนเย็นแล้ว ซึ่งน้องเอย อาการแย่แล้ว จึงอยากจะรู้ว่าทำไมถึงได้แจ้งล่าช้าแบบนี้
หลังจากนั้นคณะของนางปวีณา ได้เดินทางไปที่โรงเรียนเกิดเหตุ พร้อมทั้งทดลองนั่งในรถตู้คันที่เกิดเหตุซึ่งจอดอยู่ที่ร่ม
โดยที่ไม่มีการสตาร์ทเครื่องหรือเปิดแอร์ เป็นเวลานานประมาณ 10 นาที ก็ต้องรีบลงจากรถ เนื่องจากอุณหภูมิภายในเริ่มสูงขึ้น และมีความร้อนสะสม จนรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะเปิดประตูทางขึ้นลงทิ้งเอาไว้ก็ตาม
ในขณะเดียวกันทางด้านนายประพา นครโสภา อายุ 52 ปี ผู้เป็นยาย ได้กล่าวว่า
ในวันที่เกิดเหตุเป็นคนส่งน้องเอย ขึ้นรถเอง โดยน้องเอย เข้าไปนั่งทางด้านเบาะหลังท้ายสุด และยังโบกมือให้กันอยู่เลย ไม่คิดเลยว่าจะเรื่องแบบนี้กับหลานได้ ซึ่งจากคำบอกเล่าตรงนี้ก็ขัดกับคำให้การของครูพี่เลี้ยงที่อ้างว่าน้องเอย นั่งอยู่ที่เบาะแถวที่สองจากเบาะหลังขึ้นมา
ขณะที่ พล.ต.ต.ธัชชัย กล่าวว่า สั่งการให้พนักงานสอบสวนประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
เข้ามาเก็บรายละเอียดในรถตู้คันเกิดเหตุเอาไว้ประกอบสำนวน เนื่องจากคำให้การของครูพี่เลี้ยงและยายของน้องเอย ให้การขัดกัน จึงจำเป็นต้องหาหลักฐานเพิ่มเติม ต่อมาช่วงค่ำ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ประธานมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ โปรดเกล้าฯ ให้ ผู้แทนพระองค์ประทานแจกันดอกไม้เยี่ยม ด.ญ.มนัสนันท์ ที่ห้องไอซียู หออภิบาลผู้ป่วยหนัก 4 รพ.กรุงเทพ ยังความปลาบปลื้มให้แก่ครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง